ชายวัย 42 หลับลึก สายเปลรัดคอดับ

(5 มิ.ย.68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อุทุมพรพิสัย ได้รับแจ้งมีเหตุคนนอนเสียชีวิต ที่บ้านหลังหนึ่ง ในหมู่บ้านทุ่งไชย หมู่ที่ 2 ต.ทุ่งไชย อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัย และแพทย์เวร รพ.อุทุมพรพิสัย เมื่อไปถึงพบร่างนายพันธวุฒิ (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี นอนเสียชีวิตในเปลหน้าบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านของเพื่อน พบร่องรอยคล้ายถูกรัดบริเวณลำคอ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ หรือการถูกทำร้ายแต่อย่างใด 

นางกัญญาพร (สงวนนามสกุล) อายุ 75 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนมีลูก 2 คน หญิง 1 ชาย 1 ผู้ตายเป็นลูกชายคนโต เคยแต่งงานมีครอบครัว และมีลูก 1 คน ปัจจุบันแยกกันอยู่กับภรรยา และกลับมาใช้ชีวิตอยู่กับตนที่บ้าน สามีตนเสียชีวิตไปนานหลายปีแล้ว ส่วนลูกสาวตนไปทำงานรับจ้างอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (4 มิ.ย.68) ลูกชายบอกตนว่าจะไปนั่งเล่นบ้านเพื่อน ซึ่งห่างจากบ้านประมาณ 20 เมตร เป็นเพื่อนที่สนิทกันมาตั้งแต่เด็ก จากนั้นดึกดื่นเที่ยงคืนก็ยังไม่เห็นกลับเข้าบ้าน กระทั่งรุ่งเช้า มีญาติมาบอกว่า ลูกชายของตนนอนเสียชีวิตในเปลที่บ้านเพื่อนแล้ว หลังทราบข่าวถึงกับเข่าอ่อน เสียใจมาก แต่ตนและญาติๆก็ไม่ได้ติดในสาเหตุการเสียชีวิตแต่อย่างใด

ด้าน น.ส.วิไล (สงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี น้าสาวของผู้เสียชีวิต เล่าว่า บ้านตนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ้านที่เกิดเหตุ ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาไม่ได้ยินเสียงต่อสู้ หรือมีการทะเลาะวิวาทกันแต่อย่างใด พอเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ตนกำลังจะเตรียมตัวไปใส่บาตร ได้สังเกตเห็นผู้เสียชีวิตนอนนิ่งอยู่ในเปล ก็ไม่ได้เอะใจอะไร และพยายามเรียกปลุกแต่ก็ไม่ตื่น จึงคิดว่าน่าจะหลับลึก จากนั้น จึงเดินออกไปใส่บาตรพระ พอกลับเข้ามามีญาติอีกคนเข้าไปปลุก ปรากฏว่า เนื้อตัวเย็นเฉียบ ไร้ลมหายใจและเสียชีวิตแล้ว จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.นิลกาฬ พรศักดิ์ ผกก.สภ.อุทุมพรพิสัย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือถูกทำร้ายแต่อย่างใด ส่วนกรณีที่มีร่องรอยคล้ายถูกรัดที่บริเวณลำคอ จากการสอบสวนพบว่า เปลที่ผู้เสียชีวิตนอน เป็นเปลที่ขาดเป็นเส้นยาวบริเวณขอบเปล เมื่อนั่งขอบเปลจะหย่อน แต่พอนอนลงขอบเปลที่เป็นเส้นสายที่ขาดจะตึง 

จึงคาดว่าผู้เสียชีวิตอาจหลับลึก นอนทับสายเปลที่ขาด จนเป็นรอยช้ำบริเวณลำคอใต้คางและขากรรไกรด้านซ้ายฝั่งเดียวเป็นเวลานาน จึงไปกดทับเส้นเลือดใหญ่ที่ไหลไปเลี้ยงสมอง เป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งญาติไม่ได้ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตแต่อย่างใด จากนั้น จึงได้ส่งมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน