ไขปริศนาน้ำผุดที่เชียงดาว นักธรณีฯ เตือนเสี่ยงดินทรุด อันตราย
ไขปริศนาน้ำผุดที่เชียงดาว นักธรณีฯ เตือนเสี่ยงดินทรุด อันตราย
ไขปริศนาน้ำผุดที่เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ท่วมไร่ข้าว-หมู่บ้านมานาน 2 เดือน นักธรณีวิทยาชี้เสี่ยงเกิดดินทรุด เตือนชาวบ้านอย่าเข้าใกล้จุดน้ำผุดทั้งก่อนและหลังน้ำลด
(13 พ.ย. 67) กรณีน้ำผุดไม่หยุดมานานกว่า 2 เดือน ที่หมู่บ้านรินหลวงและหมู่บ้านอรุโณทัย ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ปริมาณน้ำมีมากจนท่วมไร่ข้าวโพดเป็นบริเวณกว้างราวกับทะเลสาบ รวมทั้งยังท่วมถนนและบ้านเรือนประชาชนอีกหลายหลัง
ดร.กฤษดา มูลป่า อาจารย์ภาคธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ให้คำอธิบายในเรื่องนี้ บอกว่า พื้นที่บริเวณดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นหินปูน ธรรมชาติของหินปูนจะถูกฝนที่มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ กัดกร่อน จนบางจุดทำให้เกิดโพรงหรือหลุมใต้ดินที่เรามองไม่เห็น
ขณะที่ฤดูฝนปีนี้มีปริมาณฝนตกหนักมาก ทำให้น้ำไปกัดเซาะโพรงใต้ดินให้ขยายเป็นโพรงใหญ่มากขึ้นจนมีลักษณะเป็นระบบถ้ำใต้ดิน เมื่อน้ำเติมเข้าไปในโพรงจนเต็มรวมน้ำบาดาลที่มีอยู่เดิม ทำให้น้ำถูกดันออกมาตามช่องโพรงที่มีจุดตัดกับผิวดิน หรือ ที่ชาวบ้านมองเห็นว่าเป็นตาน้ำ
ส่วนที่น้ำซึมลงใต้ดินช้าจนท่วมขังมานานกว่าสองเดือน น่าจะมาจากมีชั้นหินที่น้ำซึมผ่านได้ยากปิดกั้นไว้ ไม่ให้น้ำซึมลงด้านล่างได้ง่าย มวลน้ำใต้ดินจึงแผ่ออกด้านข้างแทน ไหลซึมออกไปตามรอยต่อชั้นหิน ไปผุดออกโพรงหินที่ตัดกับผิวดินตามที่เกิดขึ้นที่ตำบลเมืองนะในขณะนี้ โดยในตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่าน้ำจะลดลงทั้งหมดเมื่อไหร่ เรื่องจากไม่ทราบแน่ชัดว่าขนาดของโพรงใต้ดินจะใหญ่ขนาดไหน จะต้องมีการสำรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง
นอกจากผลกระทบจากน้ำท่วม ดร.กฤษดา บอกว่า สิ่งน่าเป็นห่วงคือหลังน้ำลด เพราะลักษณะภูมิประเทศที่เป็นโพรง อาจสุ่มเสี่ยงเกิดดินทรุดตัว หากน้ำลดลงหายไปจากโพรงถ้ำ ช่องว่างที่เคยมีน้ำค้ำยันกลายเป็นอากาศ เมื่อไม่มีอะไรมาค้ำยันไว้ อาจทำให้โพรงใต้ดินเกิดการถล่มหรือยุบตัวได้ ชาวบ้านบริเวณดังกล่าวจึงไม่ควรเข้าไปใกล้ ทั้งในช่วงที่ยังมีน้ำท่วมและหลังน้ำลด และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรต้องมีการสำรวจโครงสร้างเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่