จี้รัฐบาลตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ แก้ลำน้ำกก-สายปนเปื้อน

จี้รัฐบาลตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ แก้ลำน้ำกก-สายปนเปื้อน

63221 พ.ค. 68 17:43   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

เครือข่ายภาคประชาชน-นักวิชาการ ระบุแนวทางแก้ปัญหาลำน้ำกกและลำน้ำสายปนเปื้อนสารเคมีของเหมืองจีนฝั่งเมียนมา ไม่มีอะไรใหม่ จี้ต้องตั้งคณะทำงานพิเศษ ดึงจีนและเมียนมาเข้ามารับรู้ปัญหาเพื่อแก้ไข

(21 พ.ค. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการใหม่เพื่อการแก้ไขปัญหาสารปนเปื้อนในแม่น้ำกกและแม่น้ำสายซึ่งไหลมาจากรัฐฉาน ประเทศเมียนมา ผ่าน จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย นั้น พบว่ากลุ่มเครือข่ายภาคประชาชน องค์กรเอกชน และนักวิชาการในพื้นที่ที่ประสบปัญหา ต่างออกมาระบุว่าเป็นข้อสั่งการที่เป็นไปตามการใช้กลไกรัฐตามปกติ อีกท้้งคำสั่งทั้งหมดเป็นผลมาจากการนำโดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี ร่วมกับ 17 หน่วยงานเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 68 


ซึ่งคำสั่งใหม่ของนายกรัฐมนตรีก็ซ้ำกับมาตรการเดิมที่เคยทำ เช่น ติดตามตรวจสอบการปนเปื้อนในแม่น้ำกก ลำน้ำสาขา การปนเปื้อนในสัตว์น้ำและการสะสมในร่างกายมนุษย์ อย่างต่อเนื่อง ฯลฯ สิ่งที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ติดตามและรายงานการจัดการแหล่งที่มาของปัญหา เจรจาหารือกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อการหยุดหรือปรับปรุงวิธีการทำเหมืองซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการปนเปื้อนในแม่น้ำดังกล่าว ส่วนที่เหลือเป็นข้อสั่งการที่หน่วยงานราชการต่างๆ ได้ทำอยู่แล้ว



ด้าน ดร.สืบสกุล กิจนุกร สำนักวิชานวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เปิดเผยว่า ปัจจุบันเครือข่ายในพื้นที่ยังคงยืนยันที่จะให้มีการจัดตั้งเป็น "คณะทำงานเฉพาะกิจ" ขึ้นมา เนื่องจากปัญหานี้เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน ทั้งภายในและภายนอกประเทศ บางเรื่องอาจเป็นข้อจำกัดกับหน่วยงานภายใน โดยเฉพาะการประสานกับต่างประเทศหรือแม้แต่ชนกลุ่มน้อยในเมียนมา นอกจากนี้ขอให้มีมาตรการในการเชิญผู้แทนจากประเทศเมียนมาและจีนให้มารับทราบข้อปัญหานี้ด้วย โดยเฉพาะเรื่องผลกระทบและการหาทางออกร่วมกัน 


รายงานข่าวแจ้งว่า หลังเกิดปัญหาสารหนูปนเปื้อนในแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย รวมไปถึงในแม่น้ำโขงที่แม่น้ำทั้ง 2 สายไหลไปบรรจบ เครือข่ายภาคประชาชนได้ดิ้นรนหาข้อมูลและภาพถ่ายทางอากาศจนทราบว่าพื้นที่ต้นน้ำที่เขตปกครองพิเศษที่ 2 (สหรัฐว้า) จ.เมืองสาด และใกล้เคียง มีการทำเหมืองทองคำหลายจุดและมีการทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ธทางฝั่งตะวันออกและตะวันตกของแม่น้ำกก อย่างน้อย 2 เหมือง โดยแต่ละเหมืองตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำด้วย กิจการตั้งหมดเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปลายปี 2567 และนับตั้งแต่นั้นก็เกิดภาวะแม่น้ำกก-แม่น้ำสายขุ่น หรือแม้แต่เกิดน้ำท่วมใหญ่ ทั้งนี้ทางฝ่ายทหารโดยคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมา ระดับภาค (RBC) ซึ่งฝ่ายไทยมีแม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธานจะจัดประชุมกับ RBC ฝ่ายเมียนมา ช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค. 68 ทางฝ่ายไทยจะบรรจุวาระเรื่องผลกระทบในแม่น้ำให้ฝ่ายเมียนมาได้รับทราบเป็นครั้งแรก



ขณะที่เครือข่ายภาคประชาชน องค์กรเอกชน และนักวิชาการในพื้นที่มีกำหนดจัดกิจกรรมใหญ่ครั้งแรกในวันที่ 5 มิ.ย.2568 ซึ่งเป็นวันสิ่งแวดล้อมโลกเบื้องต้นกำหนดขอใช้สนามหน้าศาลากลาง จ.เชียงราย ติดกับแม่น้ำกกและจะมีการทำพิธีกรรมตามความเชื่อต่างๆ และสืบชะตาแม่น้ำกก พิธีของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ กิจกรรมเสวนา ฯลฯ เพื่อกระตุ้นให้มีการแก้ไขปัญหาอยางเป็นรูปธรรม


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat