นราธิวาสอ่วมหนัก แม่น้ำ 3 สายทะลัก ท่วม 13 อำเภอ

นราธิวาสอ่วมหนัก แม่น้ำ 3 สายทะลัก ท่วม 13 อำเภอ

84928 พ.ย. 67 09:56   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดนราธิวาสวิกฤต น้ำจากแม่น้ำสายหลัก 3 สาย ล้นทะลัก ทำให้มีพื้นที่น้ำท่วมครบใน 13 อำเภอ รัฐมนตรีซาบีดา บินด่วนช่วงค่ำวานนี้ รุดเยี่ยมชาวบ้านผู้ประสบภัย

(28 พ.ย. 67) เวลา 20.30 น. วานนี้(27 พ.ย.) น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย บินด่วนพร้อมคณะลงพื้นที่ จ.นราธิวาส เยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัย ภายในศูนย์พักพิงช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ศูนย์จัดการภัยพิบัติชุมชนท่าเรือ เทศบาลตำบลรือเสาะ อำเภอรือเสาะ พร้อมมอบของอุปโภค-บริโภค น้ำดื่ม จำนวน 3,000 ขวด และเยี่ยมครัวประกอบอาหารปรุงสุก โดยมีว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายซูปียัน แดเมาะเล็ง นายอำเภอรือเสาะ และเจ้าหน้าที่ ร่วมต้อนรับ


น.ส.ซาบีดา ได้พูดคุยให้กำลังใจกับผู้ประสบภัยพื้นที่อำเภอรือเสาะอย่างเป็นกันเอง พร้อมนำความห่วงใย ของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมาบอกกับชาวบ้าน โดยรัฐบาลให้ความสำคัญและพร้อมช่วยเหลือดูแลประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมอย่างเต็มที่ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ไม่ว่าจะเอยู่ภูมิภาคใด เหนือสุด หรือใต้สุดของประเทศ รัฐบาลก็จะและเป็นกำลังใจให้


"ซาบีดา" ลงพื้นที่น้ำท่วมนราธิวาส


ส่วนสถานการณ์น้ำท่วม จ.นราธิวาสล่าสุด บรรยากาศโดยทั่วไปยังคงมีฝนตกลงมาอย่างหนัก กระจายปกคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ส่งผลทำให้แม่น้ำสายหลัก 3 สาย คือ แม่น้ำบางนรา แม่น้ำสายบุรี และแม่น้ำโก-ลก มีปริมาณน้ำล้นตลิ่ง และได้ไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรและบ้านเรือนของประชาชนในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ จำนวน 76 ตำบล 511 หมู่บ้าน 38 ชุมชน มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 42,285 ครัวเรือน รวมทั้งสิ้น 154,535 คน


นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาทั้ง 3 เขต ได้มีการประกาศปิดการเรียนการสอนเป็นการชั่วคราวแล้ว จำนวน 68 โรง เนื่องจากสถานศึกษาบางแห่งมีน้ำท่วมขังสูง และนักเรียนบางส่วนมีน้ำท่วมขังบ้านพัก รวมทั้งถนนบางสายถูกตัดขาดนักเรียนไม่สามารถเดินทางมาเรียนหนังสือได้


น้ำท่วมในครั้งนี้ยังส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการเดินรถประจำ คือ รถตู้โดยสารประจำทางที่วิ่งรับส่งผู้โดยสารจากพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จรดปลายทาง 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ประกาศงดให้เดินรถบริหารผู้โดยสารเป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันนี้ เนื่องจากถนนสายหลักในแต่ละพื้นที่อำเภอ ใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีปริมาณน้ำท่วมขังสูงเป็นจุดๆ


นราธิวาสอ่วม น้ำท่วม 13 อำเภอ


ในส่วนเส้นทางแขวงทางหลวงชนบทนราธิวาสในพื้นที่ 3 อำเภอ ของจ.นราธิวาส คือ อ.ระแงะ แว้ง และเมืองนราธิวาส ที่ยานพาหนะทุกชนิดไม่สามารถแล่นผ่านได้ มีด้วยกัน 6 สาย คือ 1. ถนนสายศูนย์ราชการ อ.เมืองนราธิวาส มีน้ำท่วมขังสูง 40 ถึง 50 ซ.ม. 2. ถนนสายบ้านบาโงสะโต อ.ระแงะ มีน้ำท่วมขังสูง 90 ซ.ม. 3. ถนนสายรอยต่อระหว่างบ้านมะนังตายอกับ อ.เมืองนราธิวาส มีน้ำท่วมขังสูง 100 ซ.ม. 4. ถนนสายบ้านป่าไผ่ อ.ระแงะ มีน้ำท่วมขังสูง 100 ซ.ม. 5.ถนนสายบ้านตันหยงมัส อ.ระแงะ มีน้ำท่วมขังสูง 50 ซ.ม. และ 6. ถนนสายบ้านบูเก๊ะตา อ.แว้ง มีน้ำท่วมขังสูง 60 ซ.ม.


และจากการตระเวนตรวจสอบพบว่า พื้นที่ที่ประชาชนได้รับผลกระทบหนักสุดในเบื้องต้นขณะนี้ อยู่ในพื้นที่ 4 อำเภอ คือ อ.ระแงะ รือเสาะ แว้ง และสุไหงโก-ลก ที่ยังคงมีปริมาณน้ำท่วมขังสูงอย่างต่อเนื่อง จากผลพวงของแม่น้ำสายหลักที่รองรับมวลน้ำป่าจากเทือกเขาสันกาลาคีรี ที่ไหลลงมาบรรจบล้นตลิ่ง 


โดยพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก บริเวณ 8 ชุมชน ที่บ้านเรือนของประชาชนปลูกสร้างอยู่บริเวณตลอดแนวริมตลิ่งของแม่น้ำโก-ลก คือ ชุมชนหัวสะพาน ชุมชนโปฮงยามู ชุมชนท่าประปา ชุมชนกือดาบารู ชุมชนเสาสัญญาณ ชุมชนท่ากอไผ่ ชุมชนท่าโรงเลื่อย และชุมชนบือเร็ง มีน้ำท่วมขังสูงจากวานนี้ 20 ซ.ม. โดยอยู่ในระดับมีน้ำท่วมขังสูงโดยภาพรวม 190 ซ.ม.


นราธิวาสอ่วม น้ำท่วม 13 อำเภอ


เจ้าหน้าที่ทหารสังกัด กองร้อย 151 พัน 2 ค่ายกัลยาณิวัฒนา ภายใต้การนำของ ร.อ.พงศกร เทพษร ผบ.ร้อย ป้องกันชายแดนที่ 3 ต้องเดินฝ่ากระแสน้ำที่มีน้ำท่วมขังสูง คอยให้การช่วยเหลือประชาชน ซึ่งล่าสุดประชาชนใน 8 ชุมชน ทั้งเด็กเล็กหญิงชราต้องอพยพไปอาศัยอยู่ที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยชั่วคราว โรงเรียนเทศบาล 4 บ้านทรายทอง ที่นางสุชาดาพันธ์นรา นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ได้เตรียมจัดสถานที่ไว้แล้ว จำนวน 182 คน


และจากการตระเวนตรวจสอบการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ อ.ระแงะ พ.ต.ต.จีรยุทธิ์ แก้วด้วง สารวัตรสถานีตำรวจน้ำ 3 กองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำนราธิวาส ได้นำกำลังพลพร้อมเรือยาง เดินลุยน้ำที่มีน้ำท่วมขังสูง 170 ซ.ม.ในพื้นที่ ม.1 ต.ตันหยงมัส ที่มีประชาชนอาศัยอยู่ จำนวน 150 ครัวเรือน ออกให้การช่วยเหลืออพยพประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อย่างเป็นการเร่งด่วน


นอกจากนี้ในพื้นที่บ้านมูบาแรแน ม.7 ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ ร.อ.วัชรินทร์ ลีพิลา ผบ.ร้อย ทพ.4910 ได้ร่วมกับนายรุสลี เต๊ะ ผู้ใหญ่บ้านมูบาแรแน ต.ช้างเผือก และชาวบ้าน พร้อมรถเครน ลงไปช่วยกันกำจัดวัชพืชซากเศษท่อนไม้ขวางทางน้ำที่บริเวณสะพานในหมู่บ้าน เพื่อให้กระแสน้ำได้ไหลระบายสะดวก ก่อนที่มวลน้ำจะเข้าท่วมภายในหมู่บ้านดังกล่าว


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat