พระสงฆ์ ไม่นอนวัด ตื่นบิณฑบาตตีสาม พบดูแลคุณป้าที่ล้มป่วย เป็นอัมพฤกษ์ครึ่งซีก

พระสงฆ์ ไม่นอนวัด ตื่นบิณฑบาตตีสาม พบดูแลคุณป้าที่ล้มป่วย เป็นอัมพฤกษ์ครึ่งซีก

173502 พ.ค. 68 10:53   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

พระสงฆ์ ไม่นอนวัด ตื่นบิณฑบาตตีสาม พบดูแลคุณป้าที่ล้มป่วย เป็นอัมพฤกษ์ครึ่งซีก แจงอาหาร-ปัจจัยที่มีผู้ใส่บาตรไม่เคยเรียกร้อง ได้มาก็จะนำมาเลี้ยงดูคุณป้า หวังญาติโยมจะเข้าใจในเจตนา ยันไม่ได้ทำสิ่งที่ผิดต่อพระวินัยสงฆ์

(2 พ.ค. 68) ผู้สื่อข่าว ได้รับการประสานจากชาวบ้าน หลังมีผู้โพสต์ลงสื่อโซเชียล กรณีเกิดความสงสัยตั้งคำถามถึงการที่พบพระภิกษุสงฆ์ออกมาเดินบิณฑบาตในช่วงเวลา 03.00 น. และช่วง 09.00 น.จะกลับมาอาศัยอยู่ที่บ้านพัก ในโครงการบ้านเอื้ออาทรนาจอมเทียน ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งถือเป็นเรื่องผิดปกติ จึงขอให้ผู้สื่อข่าวเป็นกระบอกเสียงสังคม ลงพื้นที่ตามหาความจริง เพื่อไม่ให้สังคมเกิดความเคลือบแคลงใจ และเกิดการติฉินนินทา จนนำไปสู่ความเสื่อมเสียต่อพระพุทธศาสนา 


ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สังเกตการณ์ ได้พบกับพฤติกรรมตามที่ชาวบ้านพบเห็นจริง โดยพระสงฆ์รูปนี้ อายุประมาณ 30 ปี โดยมีลูกศิษย์เป็นชายสูงวัย ติดตามออกมาช่วยถือของเดินบิณฑบาตไปด้วย พักอาศัยอยู่ที่ตึก 5 ชั้น 2 ซึ่งยังไม่ทราบจำนวนผู้พักอาศัย และมีความสัมพันธ์เป็นเช่นไรกัน


ผู้สื่อข่าวจึงได้ทำการเคาะประตู เพื่อขออนุญาตพูดคุยสอบถามถึงข้อเท็จจริง จนทราบว่า บุคคลที่อาศัยอยู่ภายในบ้านมีด้วยกัน 3 คน ประกอบด้วย พระจตุรงค์ อายุ 36 ปี นายบรรจง อายุ 65 ปี บิดา และนางอัฐฎางค์ อายุ 67 ปี มีศักดิ์เป็นป้า ล้มป่วยกระทบกระเทือนทางสมอง และเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งซีก ร่างกายไม่สามารถใช้การได้เป็นปกติ ยากลำบากต่ออาการช่วยเหลือตัวเอง 


พระจตุรงค์ เปิดเผยว่า ได้บวชเรียนเป็นภิกษุมาได้ 2 พรรษา ประจำอยู่ ณ วัดxxx หลังบวชเรียนได้เพียง 1 ปี ก็ออกธุดงค์ไปทางภาคใต้ ไม่ได้อยู่จำวัดเป็นหลักแหล่ง จนมาเมื่อวันที่ 7 ม.ค.68 ทราบข่าวว่า คุณป้าประสบอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์พลิกคว่ำได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องผ่าตัดสมอง และเป็นอัมพาตครึ่งซีก หลังกลับมาพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านพักในบ้านเอื้ออาทร คุณป้าไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และไม่มีคนดูแล แม้คุณป้าจะไม่ใช่แม่ผู้ให้กำเนิด แต่ก็ได้ชุบเลี้ยงอาตมาดั่งลูกมาแต่เยาว์วัยจนเติบใหญ่  


ด้วยความห่วงใย หวังจะได้ทำหน้าที่กตัญญูกตเวทิตา ดูแลตอบแทนผู้มีพระคุณ ที่เคยชุบเลี้ยงมา จึงออกเดินทางจากจังหวัดชุมพร มุ่งหน้าสู่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี มาตั้งแต่ช่วงกลางเดือน เม.ย.68 ซึ่งก่อนเข้าพักอยู่กับคุณป้า ได้มีโยมพ่อติดตามมาด้วย และได้ไปแจ้งให้ทางตำรวจ สภ.นาจอมเทียน ทราบถึงเจตจำนงในการเข้าพักอาศัยบ้านเรือนเป็นการชั่วคราว เพื่อดูแลคุณป้าที่ล้มป่วย



ซึ่งตลอดระยะเวลา ช่วงเวลา 03.00 น. ของทุกวัน จะเดินเท้าออกไปพร้อมกับโยมพ่อ เพื่อไปขอรับบิณฑบาต บริเวณพัทยาใต้ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่พักออกไป หลายสิบกิโลเมตร ต้องใช้ระยะเวลาเดินเป็นชั่วโมง ด้วยเหตุนี้ จึงต้องตื่นแต่เช้า ทำให้ชาวบ้านที่พบเห็นต่างเคลือบแคลงใจ ซึ่งอาหารรวมถึงปัจจัยที่มีผู้ใส่บาตรมาให้ อาตมาไม่เคยเรียกร้อง ได้มาก็จะนำมาเลี้ยงดูคุณป้าที่ล้มป่วย ได้มีอาหารประทัง และสามารถดำรงชีวิตให้อยู่รอดต่อไป ซึ่งอาตมาหวังว่าญาติโยมจะเข้าใจในเจตนา อาตมาไม่ได้ทำสิ่งที่ผิดต่อพระวินัยสงฆ์ หรือผิดต่อกฎหมายบ้านเมือง เมื่อทุกอย่างเข้าที่แล้ว อาตมาก็จะกลับไปจำวัดศึกษาพระธรรมคำสอนดังเดิม


ด้าน พระครูปลัดวินัย ธีรปญฺโญ เลขานุการรองเจ้าคณะจังหวัดชลบุรี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเทพประสาท (เตาถ่าน) เปิดเผยถึงกรณีที่เกิดขึ้น ที่มีพระสงฆ์ไม่จำวัด ออกมาดูแลบุพการี หรือผู้มีพระคุณ ที่ล้มป่วยไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ยังบ้านพัก ซึ่งการมีความกตัญญูกตเวทิตา สามารถทำได้ แต่ไม่ใช่เป็นการอยู่ถาวร หรือเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น พระสามารถปรึกษาทางเจ้าอาวาส เพื่อขอนำบุพการี หรือผู้มีพระคุณ มาดูแลยังวัด ซึ่งหากมีพื้นที่รองรับ ก็สามารถทำได้เช่นกัน  



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat