CIB จับกุมมิจฉาชีพ อ้างเป็นเจ้าหน้าที่สอบสวน หลอกเหยื่อสูญเงินกว่า 3 ล้านบาท

CIB จับกุมมิจฉาชีพ อ้างเป็นเจ้าหน้าที่สอบสวน หลอกเหยื่อสูญเงินกว่า 3 ล้านบาท

90406 มิ.ย. 68 17:52   |     Tum1

CIB จับกุมมิจฉาชีพ อ้างเป็นเจ้าหน้าที่สอบสวน หลอกเหยื่อโอนเงินรวม 18 ครั้ง 14 บัญชี รวมสูญเงินกว่า 3.2 ล้านบาท

(6 มิ.ย.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พ.ต.ต.กิตติบดินทร์ กิมเซียะ สว.กก.5 บก.ป. , ร.ต.อ.นิติธร ประชันกาญจนา รอง สว. กก.5 บก.ป. , ด.ต.โสภณ เก็งฮะ , จ.ส.ต.สรณ์สรัณ ชัชชัยพรธวัล และ ส.ต.ท.สุวัฒน์ จันทร์ดี ผบ.หมู่ กก.5 บก.ป.ร่วมกันจับกุม นายรัชต์ศิษฎ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี บริเวณหน้าห้อง คอนโดแห่งหนึ่ง ซ.เพชรเกษม 63 แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพมหานคร 

ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 701/2568 ลงวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่นและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จฯ และ เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนฯ โดยประการที่รู้ว่า จะนำไปใช้ในการกระทำความผิดฯ” 


สืบเนื่องจาก ผู้เสียหายได้รับโทรศัพท์จากบุคคลที่แอบอ้างว่า เป็นเจ้าหน้าที่สอบสวนคดีพิเศษ อ้างว่าผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดและการฟอกเงิน พร้อมข่มขู่ว่าหากไม่ให้ความร่วมมือจะถูกดำเนินคดี ผู้แอบอ้างหลอกให้ผู้เสียหายแอดไลน์ และส่งเอกสารที่มีตราครุฑมาให้ดูเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ต่อมา ผู้เสียหายถูกหลอกให้ย้ายไปพักที่โรงแรม เพื่อไม่ให้บุคคลอื่นรับรู้การ “สอบสวน” จากนั้นมีการวิดีโอคอล พร้อมกล่าวหาว่าผู้เสียหายเคยมีเพศสัมพันธ์กับผู้ต้องหาคดียาเสพติด และให้ถอดเสื้อผ้าเพื่อ “ตรวจสอบร่องรอย” อ้างว่า เป็นส่วนหนึ่งของการสืบสวน ผู้แอบอ้างยังอ้างเรื่องการตรวจสอบเส้นทางการเงิน โดยหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีที่แจ้งไว้ทางไลน์ พร้อมทั้งขอข้อมูลบัญชีธนาคารและบัตรเครดิตของมารดาผู้เสียหายอีกด้วย ผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินรวม 18 ครั้ง 14 บัญชี เป็นเงิน 3,292,127.92 บาท 



ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายรัชต์ศิษฎ์ ได้ปรากฏตัวอยู่บริเวณสถานที่จับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม พบนายรัชต์ศิษฎ์ ปรากฏตัวอยู่บริเวณสถานที่จับกุมข้างต้น จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สอบถามชื่อ-สกุล มีชื่อนามสกุล เลขประจำตัวประชาชนตรงกับรายละเอียดของผู้ต้องหา ในหมายจับดังกล่าว 

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงหมายจับให้ นายรัชต์ศิษฎ์ ดู อ่านให้ฟังและอ่านเองแล้ว ซึ่งนายรัชต์ศิษฎ์ ยอมรับว่า เป็นบุคคลตามหมายจับฉบับนี้จริง และไม่เคยถูกจับกุมในคดีนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งว่าต้องถูกจับกุม พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับให้ทราบและแจ้งสิทธิตามกฎหมาย นำตัวไปทำการบันทึกจับกุม ก่อนส่งพนักงานสอบสวนท้องที่ ที่ถูกจับกุม และนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน 



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat