หัวร้อนซื้อของ 10 บาท สแกนจ่ายไม่ได้ แทงเจ้าของร้านชำ

(10 มิ.ย. 68) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบกับ นางประหยัด อายุ 59 ปี ผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์สุดระทึกกลางร้านค้าขายของชำ ย่านเด่นชัยคอนโด ต.บางปู อ.เมืองสมุทรปราการ โดยเธอได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดมาเปิดเผยต่อสื่อ เพื่อเตือนภัยและเป็นอุทาหรณ์ให้กับสังคม โดยภาพวงจรปิดจับภาพนาทีผู้ก่อเหตุชายชาวเมียมาหยิบของมาวางให้คิดเงิน ก่อนหยิบมีดขึ้นมาจ้วงแทงนางประหยัดหลายครั้ง นางประหยัดจึงพยายามต่อสู้ยื้อแย่งมีดกับผู้ก่อเหตุอยู่พักใหญ่ ก่อนที่นางประหยัดจะหลบหนีออกมาได้ และรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบ ส่วนผู้ก่อเหตุ ทราบว่าคือ นายเซน ตั้น ไป มู อายุ 24 ปี สัญชาติเมียนมา หลังก่อเหตุไม่นานเจ้าหน้าที่ตามจับตัวเอาไว้ได้ภายในที่พักคนงานใกล้กับที่เกิดเหตุ

นางประหยัด เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน เวลาประมาณบ่ายสอง ขณะที่ตนกำลังขายของตามปกติภายในร้านขายของชำ จู่ๆ ชายคนหนึ่งซึ่งทราบชื่อภายหลังคือ นายเซน ตั้น ไป มู อายุ 24 ปี สัญชาติเมียนมา เข้ามาขอซื้อกระทิงแดง 1 ขวด ในราคา 10 บาท ตนก็บอกว่าต้องซื้อของ 50 บาทขึ้นไปถึงจะสแกนจ่ายได้ ผู้ก่อเหตุก็ไม่ซื้อแล้วเดินออกไป จากนั้นกลับมารอบสองมาซื้อน้ำดื่ม 1 ขวด และขอสแกนจ่าย ตนก็ยืนยันว่าร้านรับการสแกนเฉพาะยอด 50 บาทขึ้นไป ผู้ก่อเหตุแสดงอาการไม่พอใจ วางของแล้วเดินจากไป 

ก่อนจะหวนกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับสวมหน้ากากปิดบังใบหน้า จากนั้นคนร้ายเริ่มหยิบเหล้าขาว น้ำยาปรับผ้านุ่ม และสินค้าอีกหลายรายการมาวางหน้าเคาน์เตอร์ เดินวนในร้านอย่างมีพิรุธ ก่อนแอบเข้าไปบริเวณช่องเก็บสต๊อกของ ตนจึงสอบถามอย่างใจดีว่า “หาอะไรอยู่ เดี๋ยวช่วยหยิบให้” จากนั้นคนร้ายกลับมาหน้าเคาน์เตอร์ ทำท่าจะจ่ายเงินตามปกติ กดโทรศัพท์เสมือนกำลังจะสแกนจ่าย จู่ๆก็ชักมีดออกแทงใส่แบบไม่ทันตั้งตัว ตนถูกฟันเข้าที่ใบหน้าและข้อมือทั้งสองข้าง จนได้รับบาดเจ็บ

แม้วันนี้จะจับคนร้ายได้และตนปลอดภัยกลับมาอยู่บ้านแล้ว แต่ความรู้สึกหวาดผวาและกังวลใจ ยังคงตามหลอกหลอน โดยเฉพาะเมื่อร้านตั้งอยู่ใกล้แคมป์คนงานต่างด้าว ผู้ก่อเหตุเคยเข้ามาซื้อของหลายครั้งก็ดูปกติ ไม่เคยคิดว่าจะกล้าลงมือแบบนี้ จึงอยากนำเรื่องที่เกิดขึ้นมาเป็นอุทาหรณ์เพื่อเตือนให้ทุกคนระวังตัว