น้ำท่วมยะลาเข้าขั้นวิกฤต ทศ.ตั้งโรงครัวแจกข้าว 12,000 กล่อง

(28 พ.ย. 67) ตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้(27 พ.ย.) ที่เกิดสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ในหลายจังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ที่ จ.ยะลา เจ้าหน้าที่จากเทศบาลนครยะลาหลายฝ่าย รวมไปถึงเจ้าหน้าที่จากโรงเรียนเทศบาล ได้ร่วมเปิดโรงครัวทำอาหารกล่อง มอบให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมในเขตเทศบาลนครยะลา

นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา เปิดเผยว่า น้ำท่วมเมืองยะลา  ขณะนี้อยู่ในขั้นวิกฤตแล้ว น้ำขยายตัวไป ถือว่ามีน้ำท่วมมากกว่า ปี 2530-2531 ซึ่งตอนนั้นถือเป็นน้ำท่วมใหญ่ สิ่งที่น่าห่วงคือแนวโน้มของฝนที่เติมเข้ามาไม่ได้จบสิ้น

จากการคาดการณ์ในวันที่ 28-29 พ.ย. นี้ จะยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง น้ำที่เห็นในปัจจุบันก็ยังขึ้นอย่างต่อเนื่อง  แต่ก็โชคดีที่น้ำในแม่น้ำปัตตานี ปริมาณน้ำในแม่น้ำยังไม่ถึงในขั้นวิกฤต เหลืออีกประมาณ 80 เซนติเมตร เรายังสามารถเปิดประตูระบายน้ำได้ ขณะเดียวกันเครื่องสูบน้ำ เท่าที่มีอยู่ในพื้นที่จารู ซึ่งเป็นปั๊มน้ำที่ใหญ่ที่สุด ปั๊มน้ำ ซี ของเราเป็นจุดสุดท้ายในการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำปัตตานี  เราก็เปิดเต็มที่ 6 เครื่อง และเปิดเครื่องเล็ก อีก 3 เครื่องที่สลับกันไปเปิดมา ไม่ต่ำกว่า 24 ชม.ก็ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง   

แต่ด้วยปริมาณน้ำที่ไม่เคยเห็น ในเขตเทศบาลฯ มีฝนตกเกิน 300 มิลลิเมตร และสิ่งที่น่ากังวลอีกอย่างคือน้ำในพื้นที่รอยต่อของพื้นที่ อ.รามัน ที่มีรอยต่อกับนราธิวาส จะเห็นว่าใน อ.สุคิริน มีฝนตกเกือบ 400 มิลลิเมตร, อ.ยี่งอ อำเภอเดียวประมาณ 500 มิล ซึ่งน้ำในแม่น้ำสายบุรี ส่วนหนึ่งก็ล้นฝั่งในพื้นที่รามัน บางส่วนมาสมทบกับน้ำที่มาจาก ต.บุดี ต.สะเตงนอก และเข้ามาในเขตเทศบาลฯ ซึ่งเป็นจุดรับน้ำในของทุกจุดที่เข้ามาทั้งหมด และระบายออกสู่แม่น้ำปัตตานี

ก่อนหน้านี้ทางเทศบาลฯ ได้เตรียมการซื้อเรือเครื่องเพิ่ม ถ้าน้ำเชี่ยวมีเรืออยู่ 8 ลำ เบื้องต้นเน้นช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งทางเทศบาลฯ ได้เปิดศูนย์ในการดูผู้ป่วยติดเตียงทั้งหมดอยู่ใน ร.ร.เทศบาล 3 และเป็นศูนย์พักพิงด้วย รวมทั้งได้เปิดครัว เป็น 2 ครัว ในส่วนของนักศึกษา ที่เป็นมุสลิมก็จะ รับหน้าที่ทำครัวฮาลาล ทำอาหาร แจกจ่ายพี่น้องมุสลิม ส่วนครัวไทยพุทธอยู่ที่ 12,000 กล่องต่อมื้อ วันที่ 28 พ.ย. ก็จะมีการขยายในเรื่องของการทำข้าวกล่องเพิ่มขึ้น

นายกเทศมนตรีนครยะลา ยังระบุภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วมว่า ตอนนี้แทบจะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเกือบทุกชุมชนแล้ว อาจจะเนื่องจากน้ำเชื่อมด้วยคูน้ำ ซึ่งจะพาน้ำไปทั้งหมด และในคุปตาสา บางส่วนในสะเตง เกือบทุกชุมชน ยกเว้นชุมชนพื้นที่ที่อยู่สูง  ถ้าดูในพื้นที่เขตเทศบาลฯ น้ำท่วมเกินกว่า 70 % เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ทั้งหมด ที่เทศบาลจะต้องดูแล ซึ่งเราจะพยายามดูแลส่วนที่ลำบาก การที่เราต้องดูแลทั้งหมดต้องทำข้าวกล่องวันละ 4-5 หมื่นกล่องด้วยประสิทธิภาพของเราเองคงไม่สามารถ ถ้าพื้นที่ใดที่น้ำไม่ท่วมก็สามารถมาร่วมเป็นจิตอาสากับทางเทศบาลนครยะลาได้