อัปเดตสถานการณ์น้ำท่วมทั่วไทย 67 ล่าสุด 16 ก.ย. 67
อัปเดตสถานการณ์น้ำท่วมทั่วไทย 67 ล่าสุด 16 ก.ย. 67
อัปเดตสถานการณ์น้ำท่วมทั่วไทย 67 ระหว่างวันที่ 16 ส.ค. - 16 ก.ย. 67
(16ก.ย.67) เวลา 12.45 น. นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากอิทธิพลของร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะที่มีแนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้ในระดับบนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ระหว่างวันที่ 16 ส.ค. - 16 ก.ย. 67 มีสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 28 จังหวัด ได้แก่
- เชียงราย
- เชียงใหม่
- แม่ฮ่องสอน
- ตาก
- พะเยา
- น่าน
- ลำพูน
- ลำปาง
- แพร่
- อุตรดิตถ์
- สุโขทัย
- พิษณุโลก
- นครสวรรค์
- เพชรบูรณ์
- เลย
- อุดรธานี
- หนองคาย
- หนองบัวลำภู
- ปราจีนบุรี
- อ่างทอง
- พระนครศรีอยุธยา
- ระยอง
- ภูเก็ต
- ยะลา
- นครศรีธรรมราช
- พังงา
- ตรัง
- สตูล
รวม 133 อำเภอ 608 ตำบล 3,219 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 133,082ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยและดินถล่ม รวม 42 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ รวม 24 ราย
โดยปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 16กันยายน 2567) ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 7 จังหวัด รวม 31 อำเภอ 155 ตำบล 693 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 28,746 ครัวเรือน ดังนี้
- เชียงราย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อ.แม่สาย อ.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่จัน อ.เชียงแสน อ.ดอยหลวง อ.เทิง อ.เมืองฯ อ.เวียงแก่น และ อ.เชียงของ รวม 33 ตำบล 130 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 12,215 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 9 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน ระดับน้ำลดลง
- สุโขทัย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอกงไกรลาศ รวม 3 ตำบล 20 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 361 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- พิษณุโลก เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.พรหมพิราม อ.บางระกำ และ อ.เมืองฯ รวม 7 ตำบล 15 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 576 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
- หนองคาย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.สังคม อ.ศรีเชียงใหม่ อ.ท่าบ่อ อ.เมืองฯ อ.รัตนวาปี รวม 18 ตำบล 77 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,528 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
- อุดรธานี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.นายูง อ.น้ำโสม อ.หนองหาน อ.เมืองฯ อ.โนนสะอาด รวม 12 ตำบล 34 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 42 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- อ่างทอง เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอวิเศษชัยชาญ รวม 3 ตำบล 16 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 346 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
- พระนครศรีอยุธยา เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.บางบาล อ.บางปะหัน อ.ผักไห่ อ.เสนา อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางปะอิน และ อ.บางไทร รวม 79 ตำบล 401 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 12,678 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
สำหรับการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยโดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วน โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย อาทิ เครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล เครื่องสูบน้ำ รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย และรถผลิตน้ำดื่ม เพื่อระบายน้ำบรรเทาความเดือดร้อนและผลิตน้ำดื่มสะอาดแจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
หากมีความจำเป็นต้องระบายน้ำออกจากพื้นที่ลงสู่พื้นที่อื่น ได้กำชับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประสานเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการดำเนินการโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชนเป็นสำคัญ และเลือกใช้วิธีการที่ส่งผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด พร้อมกันนี้ ยังได้สนับสนุนถุงยังชีพรวมแล้วกว่า 10,000 ชุด แจกจ่ายให้แก่ประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่เกิดสถานการณ์อุทกภัยขึ้น
ในส่วนของการเสริมกำลังดูแลให้ความช่วยเหลือประชาชนในจังหวัดเชียงราย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกับกองทัพบก (ทบ.) สนธิกำลังร่วมส่งเฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32 จำนวน 1 ลำ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยประจำ ฮ.ปภ.32 "The Guardian Team" สนับสนุนภารกิจการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย นอกจากนี้ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 15 เชียงราย ยังได้ส่งทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัย เข้าร่วมปฏิบัติภารกิจให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ประกอบไปด้วย รถไฟฟ้าส่องสว่างขนาด 200 KVA รถผลิตน้ำดื่ม รถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถกู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว รถลากเรือเคลื่อนที่เร็ว รถบรรทุกเล็ก เรือท้องแบน อุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำ เสื้อชูชีพ และถุงยังชีพ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่
นอกจากนี้ ปภ. ยังได้ส่งทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัย ยานพาหนะ จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตใกล้เคียงและศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตภาคอื่นที่ไม่มีสถานการณ์ภัย เข้าร่วมปฏิบัติภารกิจให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคเหนือ ประกอบไปด้วย ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 1 ปทุมธานี เขต 2 สุพรรณบุรี เขต 3 ปราจีนบุรี เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ เขต 8 กำแพงเพชร เขต 9 พิษณุโลก เขต 10 ลำปาง เขต 16 ชัยนาท และ เขต 17 จันทบุรี โดยขณะนี้ทีมปฏิบัติการได้เดินทางถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 15 เชียงราย ซึ่งเป็นจุดระดมทรัพยากร (Staging area) ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมรับมอบภารกิจและกระจายทีมลงช่วยเหลือในพื้นที่ต่าง ๆ แล้ว
สำหรับพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว ได้มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป
ในส่วนของพื้นที่เสี่ยงภัยที่แม้ปัจจุบันยังไม่เกิดสถานการณ์อุทกภัยขึ้น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัดให้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมแจ้งเตือนประชาชนทันทีที่มีแนวโน้มเกิดสถานการณ์ภัยในพื้นที่ รวมถึงจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ เครื่องมือ อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้พร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนทันทีที่เกิดสถานการณ์ภัยขึ้น
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามรายงานคาดการณ์สาธารณภัยและประกาศการแจ้งเตือนภัยได้ที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” โดยสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android และหากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง