แจ้งข้อหาหนัก! หนุ่มป่วยจิตยิงชาวบ้านดับ 2 ศพหน้าวัด

แจ้งข้อหาหนัก! หนุ่มป่วยจิตยิงชาวบ้านดับ 2 ศพหน้าวัด

58211 ก.ค. 68 10:28   |     AdminNews

หนุ่มยิงชาวบ้านดับ 2 ศพ ภายในชุมชนวัดคูหาสวรรค์ ตำรวจพบปืน 3 กระบอก ตั้ง 2 ข้อหาหนัก มั่นใจหลักฐานชัดเจน

11 ก.ค.68 จากเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต 2 ราย บริเวณโรงเรียนแห่งหนึ่งในซอยเพชรเกษม 20 แยก 24 และบริเวณข้างวัดในพื้นที่แขวงคูหาสวรรค์ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร ล่าสุดพลตำรวจตรี โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยความคืบหน้าคดีว่า ผู้ก่อเหตุมีบัตรผู้ป่วยจิตเวช เคยเข้ารับการรักษาแต่ภายหลังไม่ได้รักษาแล้ว และไม่ได้รับประทานยาอย่างต่อเนื่อง


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

สลดรับวันพระใหญ่! ชายคลั่งยิงดับ 2 ศพคาวัดดังย่านภาษีเจริญ


จากการพูดคุยเบื้องต้น พบว่าผู้ก่อเหตุมีลักษณะการพูดจาไม่ปะติดปะต่อ มีการข่มพี่สาว และ กล่าวหาผู้ตายว่าเอาตะปูตอกศีรษะ พูดเรื่องต่าง ๆ ไปเรื่อย ไม่มีจุดหมาย และระบุว่า ต้องเป็นคนที่เข้าใจเขาจริง ๆ จึงจะเข้าใจในสิ่งที่พูดได้ ส่วนลักษณะดังกล่าวอาจเกี่ยวข้องกับความผิดปกติทางเคมีในสมองหรือไม่นั้น ซึ่งต้องให้แพทย์เป็นผู้วินิจฉัย


ในส่วนของการดำเนินคดี พบว่ามีการใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นจนเสียชีวิต ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมาย โดยของกลางที่ตรวจพบในบ้าน มีอาวุธปืนรวม 3 กระบอก ได้แก่ ปืนขนาด .38, ปืนขนาด 9 มม. และปืนลูกซอง พร้อมกระสุนกว่า 100 นัด ซึ่งเป็นอาวุธที่มีทะเบียนถูกต้อง อยู่ในชื่อของพ่อผู้ก่อเหตุ และเคยมีประวัติซ้อมยิงปืนมาก่อน


สำหรับประเด็นที่อาจมีการยกข้อต่อสู้ว่าเป็นผู้ป่วยทางจิต ต้องเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์และพิจารณาในขั้นตอนต่อไป โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่มองว่า การควบคุมตัวครั้งนี้เป็นการยับยั้งไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ เนื่องจากผู้ก่อเหตุแสดงพฤติกรรมที่ไม่สมเหตุสมผล สอดคล้องกับอาการ “แอคทีฟแอคติ้ง” ซึ่งเป็นภาวะคิดไปเองและกระทำตามความคิด


ในส่วนของการสอบสวนดำเนินคดี อยู่ในความรับผิดชอบของ สน.ภาษีเจริญ ซึ่งจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด พยานบุคคล และจัดทำสำนวนคดีอย่างรัดกุม


กรณีที่ชาวบ้านในพื้นที่แสดงความกังวลว่าผู้ก่อเหตุอาจกลับเข้ามาในชุมชน พล.ต.ต.โชติวัฒน์ ระบุว่า ต้องให้กระบวนการยุติธรรมเป็นผู้ดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า ประเด็นที่ควรให้ความสำคัญคือการมีบุคคลอันตรายอยู่ภายในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นผู้เมายา ผู้มีอิทธิพล หรือบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคม ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนในการแจ้งข้อมูลแก่ตำรวจ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยได้รับแจ้งเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุรายนี้จากชาวบ้านเลย


ส่วนกรณีที่ญาติผู้เสียชีวิตกังวลว่า ผู้ต้องหาอาจหลุดคดี ผู้บัญชาการฯ ยืนยันว่า ได้สั่งการให้ทีมสืบสวนดำเนินการอย่างเต็มที่ และมั่นใจว่ามีพยานหลักฐานชัดเจนเพียงพอ ทั้งรายงานสอบสวน พยานบุคคล กล้องวงจรปิด และของกลางที่เกี่ยวข้องในคดี


เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา ฆ่าคนตายโดยเจตนา และความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน พร้อมทั้งยืนยันว่าจะคัดค้านการประกันตัวอย่างแน่นอน เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นบุคคลอันตราย


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat