เปิดใจ! แม่น้องการ์ตูน เล่าทั้งน้ำตา 11 ปีผ่านไปไร้การเยียวยาจากคู่กรณี

(12 มิ.ย. 68) จากกรณีเฟซบุ๊ก “ร้านสเต็กคุณแม่การ์ตูน Mother's Grill Steak House ย่างด้วยรัก หมักด้วยใจ” ของ แม่น้องการ์ตูน หรือ นางสาวภิญญารัศมี ศักดิ์สืบพรรณ เหยื่อรถกระบะแต่งซิ่ง เมาแล้วขับ เสียหลักพุ่งชนร้านสเต๊ก บริเวณปากซอยเอกชัย 119 เมื่อปี 2557 เหตุการณ์ครั้งนั้น ส่งผลให้คุณพ่อเสียชีวิต ส่วนน้องการ์ตูน ผู้เป็นลูกสาว ได้รับบาดเจ็บสาหัส จนกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงตลอดมา

กระทั่งเมื่อวานนี้ (11 มิถุนายน 2568) เฟซบุ๊กของคุณแม่ ได้โพสต์แจ้งข่าวเศร้า โดยระบุว่า “ในวันพุธที่ 11 มิถุนายน 2568 เวลา 18.52 น. น้องการ์ตูนได้จากพวกเราไปแล้ว หลับให้สบายนะคนเก่ง ขอให้เป็นนางฟ้าบนสวรรค์คอยให้กำลังใจคุณแม่ต่อไป ขอให้ดวงวิญญาณไปสู่สุคติ และพบแต่ความสงบในภพหน้านะหนูการ์ตูน” 

ล่าสุดคุณเนย ณัฏฐ์ชนิตว์ ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ ลงพื้นที่ไปยัง วัดราษฎร์บูรณะ แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ เพื่อติดตามความคืบหน้า บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า 

พูดคุยกับ นางสาว ศรัญญา ชำนิ คุณแม่ของน้องการ์ตูน เปิดใจทั้งน้ำตา ว่า ก่อนหน้านี้คุณแม่เคยแจ้งทางหน้าเพจ facebook ว่าจะไม่ได้ยื้อน้องไว้แล้ว หลังจากนั้นมาน้องก็ยังสู้ตลอดระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น จนกระทั่งเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568 ทางโรงพยาบาลติดต่อมาว่า อาการของน้องจะไม่ไหวแล้ว ออกซิเจนต่ำลงมามาก แต่ปรากฏว่าเมื่อตนเองไปถึงโรงพยาบาล ออกซิเจนน้องก็กลับมาเป็นปกติ จนอยู่กับน้องจนถึงช่วงตี 1 ถึงตี 2 ต่อมาช่วงเช้าของวันที่ 11 มิถุนายน 2568 น้องเริ่มฟรีซอาหารไม่ได้ ติดเชื้อในกระแสเลือดหลายรอบ น้องอยู่ได้ด้วยเครื่องหายใจ ทางครอบครัวจึงตัดสินใจจะประคับประคองให้น้องได้อยู่ด้วยกันได้นานที่สุด และไม่ให้น้องเจ็บปวด 

กระทั่งทางครอบครัวตัดสินใจให้คุณหมอถอดเครื่องช่วยหายใจ โดยให้น้องหายใจเองโดยการออนออกซิเจน (on oxygen) ซึ่งก่อนที่จะถอดเครื่องช่วยหายใจตนเองได้บอกกับน้องว่า "ไม่ต้องห่วงแม่ ห่วงตา ห่วงยาย หรือห่วงใครแล้ว น้องเหนื่อยมามากแล้ว ให้น้องหลับให้สบาย และไปอยู่กับคุณพ่อบนสวรรค์ และบอกว่ามีคนรักน้องเยอะ ไม่ต้องห่วงว่าใครจะจำเราไม่ได้" หลังจากออนออกซิเจนได้ 3 ชั่วโมง น้องการ์ตูนก็จากไปอย่างสงบ และไม่ทรมาน ในเวลา 18.52 น. ซึ่งตลอดระยะเวลา 11 ปีที่ผ่านมา ตนเอง และครอบครัวดูแลน้องการ์ตูนมาอย่างดีโดยตลอด

ในส่วนของคู่กรณี ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ จนถึงวันนี้ 11 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยได้รับการติดต่อ หรือช่วยเหลือจากคู่กรณีเลย แม้กระทั่งศาลฯ ตัดสินแล้ว แต่คู่กรณีก็ไม่เคยติดต่อมาช่วยเหลือหรือเยียวยาใดๆ 

ล่าสุดวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ตนเองได้ยื่นเรื่องต่อศาล และศาลเรียกตัวคู่กรณีมาพบ ในขณะที่เจอคู่กรณี ทนายของตนเองได้ถามคู่กรณีว่ามีอะไรจะพูดหรือไม่ หรืออยากจะขอโทษคุณแม่หรือไม่ คู่กรณีตอบคำเดียวว่า "ไม่มี" หลังจากนั้นก็ขึ้นศาลฯ กันไป

ตนเองอยากให้เคสของลูกสาวเป็นกรณีสุดท้าย ซึ่งเชื่อว่าในประเทศไทยมีเหตุการณ์แบบลูกสาวตนเองที่ถูกรถชนแล้วไม่ได้รับความเป็นธรรมอีกหลายเคส ทุกครั้งที่เป็นข่าวก็จะมีหน่วยงานรัฐ หรือกระทรวงใดๆ เข้ามาให้ความช่วยเหลือ แต่สุดท้ายเหยื่อก็ต้องเป็นคนดำเนินการเองทุกอย่าง ถ้าแก้กฎหมายให้เหยื่อไม่ต้องทำเองได้ หรือมีกฎหมายที่สามารถเยียวยาได้มากกว่านี้ ตนเองคิดว่าคนที่ทำผิดจะน้อยลง 

อย่างไร ส่วนของพิธีรดน้ำศพ จะจัดขึ้นที่วัดราษฎร์บูรณะ บางปะกอก ศาลา 2 วันนี้รดน้ำศพเป็นวันแรก เวลา 16.00 น. จะมีการสวดพระอภิธรรมศพจำนวน 7 คืน และฌาปนกิจในวันที่ 19 มิถุนายน 2568 นี้

ต่อมาทีมข่าวเวิร์คพอยท์ ลงพื้นที่ไปยัง ซอยเอกชัย 109 ซึ่งได้รับข้อมูลมาว่าเป็นสถานที่ที่ นางสาวน้ำผึ้ง คู่กรณีของน้องการ์ตูน เคยทำงานอยู่ บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ตลาดแห่งหนึ่ง ทีมข่าวสอบถาม แม่ค้าในตลาด ให้ข้อมูลว่า คนในตลาดทราบเหตุการณ์ที่นางสาวน้ำผึ้งขับรถชนน้องการ์ตูน แต่ที่ผ่านมาก็ไม่มีใครพูดถึง หลังเกิดเรื่องนางสาวน้ำผึ้งเข้าไปอยู่ในเรือนจำ หลังจากพ้นโทษออกมานั้นไม่ได้กลับมาขายของในตลาด และเลิกรากับสามีเก่า และย้ายไปอยู่กับแฟนใหม่ แต่ไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน 

ขณะที่ พ่อค้าในตลาดอีกราย ยอมรับว่าเป็นเครือญาติกันกับนางสาวน้ำผึ้ง แต่ไม่ได้ติดต่อกันมานานแล้ว และไม่ทราบว่าปัจจุบันนางสาวน้ำผึ้งไปอยู่ที่ไหน

ขณะเดียวกัน ในระหว่างที่ทีมข่าวลงพื้นที่ภายในตลาดดังกล่าวนั้น สังเกตเห็นป้าย QR CODE รับเงินหน้าร้านค้าเกือบทุกร้านภายในตลาด ระบุนามสกุลเดียวกันเกือบทั้งหมด ซึ่งนามสกุลนี้เป็นนามสกุลของ นางสาวน้ำผึ้ง คู่กรณีแม่น้องการ์ตูน

ทีมข่าวลงพื้นที่มายังบ้านหลังหนึ่งภายในซอยเอกชัย 108 ซึ่งเป็นบ้านที่นางสาวน้ำผึ้งเคยอยู่อาศัยในสมัยเด็ก และเป็นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน พบกับญาติของนางสาวน้ำผึ้ง ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ทางครอบครัวเพิ่งทราบจากทีมข่าวว่าน้องการ์ตูนเสียชีวิตลงแล้ว ทางครอบครัวยอมรับว่า เครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมเล่าว่า ย้อนกลับไปเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ขณะที่เกิดเหตุนั้น ญาติก็เคยได้ไปร่วมงานศพของพ่อของน้องการ์ตูน และเคยตักเตือนนางสาวน้ำผึ้งเรื่องการใช้ชีวิต แต่ในขณะนั้นก็เข้าใจว่าด้วยความเป็นวัยรุ่น อาจไม่รับฟัง 

โดยปกติแล้ว เวลามีเรื่องอะไรนั้น นางสาวน้ำผึ้งจะเล่าให้พ่อและแม่ฟัง ส่วนตนเองเป็นเพียงญาติ ก็จะไม่ทราบรายละเอียดข้อมูลเท่าพ่อแม่ หลังจากที่นางสาวน้ำผึ้งพ้นโทษออกมานั้น ก็ยอมรับว่าชีวิตไม่ได้สุขสบาย เปลี่ยนงาน เปลี่ยนอาชีพไปเรื่อยๆ ซึ่งตนเองก็ไม่ได้มีการติดต่ออีก.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แม่แจ้งข่าวเศร้า “น้องการ์ตูน”จากไปอย่างสงบแล้ว