เตือน 11 จังหวัดท้าย"เขื่อนเจ้าพระยา" ปรับอัตราการระบายน้ำเพิ่มขึ้นอีก

เตือน 11 จังหวัดท้าย"เขื่อนเจ้าพระยา" ปรับอัตราการระบายน้ำเพิ่มขึ้นอีก

13205 ต.ค. 67 12:22   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

เตือน 11 จังหวัดท้าย"เขื่อนเจ้าพระยา" ปรับอัตราการระบายน้ำแบบขั้นบันไดขึ้นไปที่เกณฑ์ 2,400ลบ.ม./วิ ให้ยกของขึ้นที่สูง เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วม

(5ต.ค.67) ที่ จ.ชัยนาท ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้(4ต.ค.) กรมชลประทานได้ออกประกาศแจ้งเตือนฉบับที่ 10 ไปยัง 11 จังหวัดลุ่มน้ำภาคกลาง ประกอบด้วย 


  1. อุทัยธานี 
  2. นครสวรรค์ 
  3. ชัยนาท 
  4. ลพบุรี 
  5. สิงห์บุรี 
  6. อ่างทอง 
  7. พระนครศรีอยุธยา 
  8. ปทุมธานี 
  9. นนทบุรี 
  10. สุพรรณบุรี 
  11. กรุงเทพมหานคร 


ในช่วงวันที่ 11 ตุลาคม คาดว่าจะมีปริมาณน้ำเหนือไหลผ่านจุดวัดน้ำ C2 หน้าค่ายจิรประวัติ ลงสู่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ในอัตรา 2,200 - 2,500 ลบ.ม./วิ และมวลน้ำสมทบจากแม่น้ำสะแกกรังและลำน้ำสาขาอีกประมาณ 300 ลบ.ม./วิ รวม 2,800ลบ.ม./วิ ทำให้จำเป็นต้องมีการพิจารณาปรับแผนการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อลดผลกระทบทั้งด้านเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน 


โดยจะปรับอัตราการระบายน้ำแบบขั้นบันไดขึ้นไปที่เกณฑ์ 2,400ลบ.ม./วิ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อน โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ริมคลองโผงเผง จ.อ่างทอง , คลองบางบาล บ้านบางหลวงโดด ต.บางบาล ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 60 - 70 ซม. จึงขอให้ประชาชนยกของขึ้นที่สูง และเฝ้าสังเกตความเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำและติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไปนั้น


โดยล่าสุดสถานการณ์น้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา กุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลงสู่ลุ่มภาคกลาง ได้คงอัตราการระบาย เพื่อรองรับมวลน้ำเหนือ และพบว่าปริมาณน้ำเหนือที่ไหลลงเขื่อนเจ้าพระยาผ่านจุดวัดน้ำ C2 หน้าค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องล่าสุด(00.00น.) วัดได้ 2,342 ลบ.ม./วิ(ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) 


ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาได้คงการระบายไว้ที่ 1,999 ลบ.ม./วิ เพื่อลดผลกระทบกับพื้นที่เหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน รวมทั้งสร้างพื้นที่ว่างในลำน้ำรองรับปริมาณน้ำเหนือ ทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาทรงยกตัวขึ้น 59 ซม. ใน 24 ชม. ล่าสุดวัดได้ 16.52 ม.รทก.(เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง) ขณะที่ระดับน้ำท้ายเขื่อนยกตัวขึ้น 16 ซม.ในรอบ 24 ชม. ล่าสุดวัดได้ 14.50ม.รทก. 


ทั้งนี้จากการระบายน้ำในเกณฑ์ 2,000 ลบ.ม./วิ จะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อน ตั้งแต่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาทลงไป จ.สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ริมคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล บ้านบางหลวงโดด ต.บางบาล ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 10 - 20 ซม. ใน 24 ชม.ข้างหน้า จึงขอให้ประชาชนยกของขึ้นที่สูง และเฝ้าสังเกตความเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำและติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไป 


ล่าสุดทีมข่าวลงพื้นที่ท้ายเขื่อนฝั่งตะวันออก พื้นที่ ต.โพนางดำออกและ ต.หาดอาษา ซึ่งอยู่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำเจ้าพระยาพบว่าบ้านเรือนประชาชนที่อยู่นอกคันกั้นน้ำ ถูกท่วมขังใต้ถุนบ้านสูงประมาณ 30 ซม.โดยระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งอยู่ประมาณ 1 ม. เทศบาลตำบลโพนางดำออก และเทศบาลตำบล

หาดอาษาจึงได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำตามจุดเสี่ยง เพื่อใช้แก้ไขปัญหาน้ำท่วมพร้อมเตรียมกระสอบทรายเพื่อก่อแนวกั้นน้ำเอาไว้ด้วย


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง