จับผัวเมียแสบ ย่องลักถังแก๊สร้านห้องเย็น นำขายซื้อยาบ้าเสพ
จับผัวเมียแสบ ย่องลักถังแก๊สร้านห้องเย็น นำขายซื้อยาบ้าเสพ

จับโจรผัวเมียแสบ ย่องลักถังแก๊สร้านห้องเย็น นำไปขายซื้อยาบ้าเสพ อ้างตกงานทั้งคู่
เมื่อเวลา 17.41 น. วันที่ 13 ก.ค.68 ขณะที่ พ.ต.ต.ภาคภูมิ แก้วสวนจิก สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก มีนายจิรายุ (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี น.ส.ชลธิชา (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี สามีภรรยา ชาวชุมชนเก่าจาน ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี แจ้งว่า ถังแก๊สปิกนิก สีเขียว ขนาด 7 กก. ที่วางไว้ในบ้านได้หายไป จึงตรวจสอบกล้องวงจรปิด ก็พบว่าเวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 10 ก.ค.68 มีคนร้ายเป็นผู้หญิง อายุประมาณ 40 ปี สวมเสื้อคลุมแขนยาว สีดำ มีฮู้ด ขี่รถจักรยานไฟฟ้า สีขาว มาจอดหน้าบ้าน ก่อนจะเดินเข้ามาลักเอาถังแก๊สของตนไป ขึ้นรถจักรยานไฟฟ้าหลบหนี จึงมาแจ้งตำรวจให้ช่วยติดตามจับกุมคนร้ายให้ด้วย
นายจิรายุ ผู้เสียหาย เล่าว่า ที่บ้านทำกิจการห้องเย็น ต้องเปิดประตูบ้านเอาไว้ เพราะมีคนงานเข้ามาเอาของตลอด เมื่อวานนี้คนงานได้บอกว่าถังแก๊สหายไป วันนี้ตนเลยได้เปิดกล้องวงจรปิดดู ก็พบคนร้ายที่ก่อเหตุ ซึ่งถังแก๊สตนซื้อมาให้คนงานเอาไว้ทำกับข้าวกิน ซึ่งคนร้ายที่อยู่ในภาพวงจรปิด ตนรู้สึกคุ้นๆเหมือนเห็นในเพจข่าวแจ้งเตือนภัย ที่สองผัวเมียไปก่อเหตุลักทรัพย์แบตเตอรี่รถยนต์ และทรัพย์สินอื่นๆที่ขายได้ และทำมาแล้วหลายครั้ง
ตนคิดว่า เป็นคนเดียวกันที่มาขโมยกับถังแก๊สของตน เมื่อก่อนนานมาแล้ว จยย.ของตนหาย แต่ว่าตามกลับมาได้ และก็ไม่เคยมีอะไรหาย จนมาถึงครั้งนี้ถังแก๊สหาย แต่มีกล้องวงจรปิด จึงสามารถเห็นตำหนิรูปพรรณหน้าตาของคนร้ายที่เข้ามาขโมย จึงนำภาพวงจรปิดมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐานก่อน
ต่อมา พ.ต.ท.ภคพล พลภักดี สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังตำรวจสืบสวน ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี จนทราบตัวคนร้าย เนื่องจาก คนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี มาแล้วหลายครั้ง จึงเข้าจับกุมคนร้ายทราบชื่อภายหลังคือ น.ส.วนิดา (สงวนนามสกุล) อายุ 46ปี และ นายประเสริฐ (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี ภรรยาและสามี ได้ที่บ้านหลังหนึ่ง ซอยวุฒิอนันต์ 4 ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี
พร้อมกับนำตำรวจไปตรวจยึด จักรยานไฟฟ้าที่ใช้ก่อเหตุ ถังแก๊สขนาด 4 กก.ที่ลักไปขายที่ร้านรับซื้อของเก่าภายในซอยวุฒิอนันต์ ตำรวจจึงควบคุมตัวทั้งคู่ มาโรงพักทำการสอบสวน และแจ้งนายจิรายุ กับ น.ส.ชลธิชา ผู้เสียหาย เจ้าของถังแก๊ส มาดูทรัพย์สินด้วย
จากการสอบสวน น.ส.วนิดา และ นายประเสริฐ ให้การรับสารภาพว่า ทั้งคู่ตกงาน ไปสมัครงานแล้วไม่มีที่ไหนรับ ต้องการหาเงินเลี้ยงลูกและใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จึงขี่รถสามส้อเครื่องตระเวนหาเก็บของเก่าขาย แต่ก็ไม่พอใช้จ่าย จึงปรึกษากันว่าจะทำอย่างไร เลยลองก่อเหตุลักทรัพย์ บางครั้งก็ออกไป 2 คน บางครั้งภรรยาก็ออกไปลักทรัพย์คนเดียว พอได้ของมา สามีก็นำไปขายที่ร้านรับซื้อของเก่า
เงินที่ได้ก็เอามาใช้จ่าย และซื้อยาบ้ามาแบ่งกันเสพ ซึ่งพวกตนเสพไม่มากแค่วันละเม็ด ที่ตนทำก็ไม่ได้ตั้งใจจะไปขโมย เพียงแค่ไปเจอทรัพย์สินและอยากได้ไปขายเอาเงินมาใช้จ่าย ประกอบกับไม่มีเงิน จึงได้ก่อเหตุขโมย และอยากกลับตัวที่ทำไม่ดี ทำให้ทุกคนเดือดร้อน ขอโทษเจ้าของถังแก๊ส ที่ทำลงไปพวกตนขอรับผิดทุกอย่างตามกฎหมาย
จากนั้น นายประเสริฐกับนางวนิดา ได้ยกมือไหว้ขอโทษนายจิรายุ และ น.ส.ชลธิดา เจ้าของถังแก๊ส ซึ่งก็ให้อภัยทั้งสอง และตักเตือนว่า อย่างทำแบบนี้มันไม่ดี เพราะทุกวันนี้มีกล้องวงจรปิดทุกบ้านแล้ว แต่ก็ให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อกล่าวหา “ร่วมกันลักทรัพย์ หรือรับของโจร” ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
