รถ 6 ล้อเบี่ยงเลน จยย.เบรกไม่อยู่มุดถังน้ำมันหวิดดับ

(14 มิ.ย. 68) เวลา 18.00 น. พ.ต.ท.สายันต์ ภูพรรณา พงส.สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีรถจักรยานยนต์ลื่นล้มมุดใต้ท้องรถ 6 ล้อ มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดใต้ถังน้ำมันรถ บริเวณถนนสุขสวัสดิ์ด้านขาออกมุ่งหน้า อ.พระสมุทรเจดีย์ เยื้องปากซอยสุขสวัสดิ์ 66 หมู่ที่ 4 ต.บางพึ่ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมประสานขอรถกู้ชีพมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งให้การช่วยเหลือ 

ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลน บริเวณเลนที่ 4 ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้างรถไฟฟ้ามีแท่งแบริออร์วางตั้งเรียงรายเป็นทางยาวพบรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ สีขาว บรรทุกถั่วงอกมาครึ่งคัน จอดเปิดไฟฉุกเฉินอยู่กลางถนน บริเวณใต้ท้องรถบริเวณถังน้ำมันรถพบรถจักรยานยนต์ ล้มตะแคงข้างทับขาซ้ายท่อนล่างของ นายธีรวัฒน์ อายุ 23 ปี ได้รับบาดเจ็บ

เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนพยายามนำคนเจ็บออกจากใต้ถังน้ำมันรถบรรทุก 6 ล้อแต่ไม่สามารถนำออกมาได้ จึงประสานขออุปกรณ์แม่แรงยกรถบรรทุกจากร้านซ่อมรถที่อยู่ใกล้เคียงมายกโดยใช้เวลากว่า 20 นาที จึงสามารถนำคนเจ็บออกมาจากใต้ถังน้ำมันได้แล้วรีบนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง

จากการสอบถาม นายธีรวัฒน์ ผู้บาดเจ็บเล่าว่าตนเป็นพนักงานโรงงานแห่งหนึ่ง ก่อนเกิดเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวกลับมาจากทำธุระย่านรังสิตเพื่อจะไปหาเพื่อนรุ่นพี่ภายในซอยสุขสวัสดิ์ 78 เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุตนพยายามเร่งเครื่องเพื่อจะแซงรถบรรทุก 6 ล้อแต่ในขณะนั้นตนไม่ทันสังเกตว่ารถบรรทุกเปิดไฟเลี้ยว ระหว่างนั้นรถบรรทุก 6 ล้อคู่กรณีกำลังจะเบี่ยงออกมาทางเลนขวา ตนตกใจจึงพยายามเบรกหยุดรถซึ่งในเวลานั้นมีฝนตกลงมาพรำๆทำให้ถนนเปียกรถเลยลื่นไถลเข้าไปบริเวณใต้ถังน้ำมันของรถบรรทุก 6 ล้อ จนถูกหนีบบริเวณข้อขาได้รับบาดเจ็บ

สอบถาม นายธนพล อายุ 28 ปี คนขับรถบรรทุก 6 ล้อ เล่าว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุตนได้ขับมาในเลนที่ 3 เมื่อพ้นไฟแดงบริเวณแยกปากซอยสุขสวัสดิ์ 66 มาแล้ว จึงได้มองกระจกข้างด้านขวาว่าไม่มีรถตามมาจึงเปิดไฟเลี้ยวเพื่อจะสับเปลี่ยนเลน แต่เปลี่ยนยังไม่ทันจะสุดคันได้ยินเสียงมีรถมาชนด้านข้างจึงรีบจอดรถลงมาดูพบรถจักรยานยนต์มุดเข้าไปใต้ถังน้ำมันแล้ว จึงรีบเข้าไปช่วยปฐมพยาบาลและพยายามจะช่วยคนเจ็บออกจากรถจักรยานยนต์แต่เห็นว่าขาถูกหนีบไว้จึงได้รีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยให้รีบเดินทางมาช่วยเหลือ 

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพพร้อมลงบันทึกประจำวันไว้เบื้องต้น ก่อนเชิญตัวคนขับรถบรรทุก 6 ล้อ ไปสอบสวนเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจและเดินทางไปสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาลเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป