13 ตำรวจเครียด ถูกเจ้าของหอพักแจ้งความกลับ ม.157

13 ตำรวจเครียด ถูกเจ้าของหอพักแจ้งความกลับ ม.157

152202 มิ.ย. 68 16:50   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

13 ตำรวจชุดจับกุมเจ้าของหอพักมหาภัย ย่านเมืองเอก ยอมรับรู้สึกเครียด หลังถูกเจ้าของหอพักแจ้งความกลับ ม.157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

(2 มิ.ย. 68) ดราม่ายังไม่จบความคืบหน้ากรณีหอพักย่านเมืองเอก จ.ปทุมธานี ที่ได้รับฉายาว่า “หอพักมหาภัย” หลังถูกนักศึกษากว่า 20 ราย เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของหอพักในข้อหากรรโชกทรัพย์และทำร้ายร่างกาย ต่อมาเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่ได้ร่วมรวมพยานหลักฐานและนำหมายค้นพร้อมหมายจับเข้าดำเนินการ 3 คน พ่อ(เป็นอดีตนายตำรวจ) แม่ ลูก ที่เป็นเจ้าของหอ โดยผู้ต้องหาทั้งสามได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและได้ยื่นประกันตัวออกไป


จากนั้นในวันที่ 30 พ.ค. อดีตนายตำรวจพร้อมด้วยภรรยาเจ้าของหอพักได้เดินทางมาที่ สภ.ปากคลองรังสิต เพื่อมาแจ้งความดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.เนติ รุ่งฟ้าแสงอรุณ  รอง ผกก.(สอบสวน)หน.งานสอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต ในข้อหา หมิ่นประมาท ระบุว่า พ.ต.ท.เนติ รุ่งฟ้าแสงอรุณ ให้สัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าว  โดยใส่ความว่าอดีตนายตำรวจพร้อมด้วยภรรยา “เป็นคนไม่ดี” และมีเจตนาให้ผู้แจ้งได้รับความเสียหาย ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง


ต่อมาเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. อดีตนายตำรวจได้เดินทางมาที่ สภ.ปากคลองรังสิตอีกครั้งเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมทั้งชุด รวม 13 นาย ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157


พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผู้กำกับการ สภ.ปากคลองรังสิต เปิดเผยว่า ผู้ใต้บังคับบัญชาทั้ง 13 นายถูกเจ้าของหอพักแจ้งความกลับจริง โดยเป็นการใช้สิทธิ์ตามกรอบของกฎหมายที่เจ้าของหอพักสามารถทำได้ แต่ตนมองว่า มันไม่ปกติ เพราะคดีนี้ตำรวจกระทำการด้วยความรอบคอบและดำเนินการทุกอย่างตามกรอบกฎหมาย ซึ่งรู้อยู่แล้วว่าจะต้องเกิดแรงปะทะ ยิ่งเข้าดำเนินการกับอดีตนายตำรวจที่รู้กฎหมาย แต่ไม่คิดว่า จะถึงขั้นแจ้งความกลับตำรวจ


หลังจากที่ทราบเรื่องตนก็รีบเดินทางมาดูแลเรื่องขวัญและกำลังใจของผู้ใต้บังคับบัญชาและให้ความมั่นใจกับลูกน้องว่าเราปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยทางผู้บังคับบัญชาระดับสูงตอนนี้ทราบเรื่องแล้วและกำลังดูในรายละเอียดว่า จะต่อสู้กันในแนวทางไหน


ขณะที่ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ได้พูดคุยกับ 1 ใน 13 ตำรวจชุดจับกุม ที่ถูกแจ้งความกลับ เปิดเผยว่า ตนเป็นข้าราชการตำรวจมา 30 ปี ประจำอยู่ที่สภปากคลองรังสิตมา 20 ปี ทราบปัญหาเรื่องหอพักดังกล่าวมาตลอด ซึ่งก่อนหน้านี้ที่เคยเข้าไปดำเนินการก็ถูกเจ้าของหอข่มขู่ตลอดเรื่องจะดำเนินคดีกับทางตำรวจ จนกระทั่งมีการเปลี่ยนผู้บังคับบัญชาในยุคปัจจุบัน สั่งและกำชับให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย


ซึ่งชุดของพวกตนก็ทำด้วยความนะมัดระวังและเดินตามกรอบกฎหมายทุกอย่าง แต่มาถูก แจ้งความกลับแบบนี้ยอมรับว่า ตำรวจทุกนายและครอบครัวรู้สึกเครียด เป็นกังวลอย่างมากอย่างกรณีของตนทำคดีมาเป็นร้อยคดี ไม่เคยถูกแจ้งความกลับ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต ซึ่งตนเหลืออายุราชการอีก 8 ปี ไม่รู้ว่า ต้องสู้คดีไปอีกนานแค่ไหน บางครั้งก็รู้สึกท้อและต้องมาเจอเรื่องแบบนี้มันเสียสุขภาพจิต


ตนอยากฝากถึงคู่กรณีว่า ทุกคนมีหน้าที่ของตัวเอง สิ่งที่ตนและพวกทำก็ทำตามหน้าที่และทำตามกรอบของกฎหมาย ไม่ได้ทำตามกระแสสังคมอย่างที่คู่กรณีเคยพูดไว้หรืออย่างหลายคนเข้าใจ


ขณะเดียวกันความคืบหน้าในคดีหลักที่นักศึกษาผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายงานว่านักศึกษาจำนวนมากได้ทยอยย้ายข้าวของออกจากหอพักดังกล่าวแล้ว และทางเทศบาลได้สั่งรื้อถอนอาคารหอพัก เนื่องจากพบว่าไม่มีการขออนุญาตก่อสร้างและดำเนินการตามพระราชบัญญัติหอพักอย่างถูกต้อง



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat