หลานใช้ก้อนหินทุบย่าพิการดับ อ้างหงุดหงิดต้องคอยเก็บอึ-ฉี่และถูกต่อว่า

หลานใช้ก้อนหินทุบย่าพิการดับ อ้างหงุดหงิดต้องคอยเก็บอึ-ฉี่และถูกต่อว่า

93502 มิ.ย. 68 10:47   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

หลานชายก่อเหตุสลด ใช้ก้อนหินทุบย่าพิการดับคาบ้านในอำเภอพระยืน ก่อนอุ้มร่างล้างน้ำอำพรางว่า “ล้มหัวฟาดพื้น” ตำรวจสอบเค้นรับสารภาพ เหตุหงุดหงิดถูกต่อว่า และต้องดูแลย่าเก็บอึ-ฉี่ให้ทุกวันเพราะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้

(2 มิ.ย.68) พ.ต.อ.ชลิต มรกตศรีวรรณ ผกก.สภ.พระยืน พ.ต.ท.ศักดิ์สิทธิ์ สายสมบัติ รอง ผกก.สืบสวน สภ.พระยืน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.พระยืน นำตัว นายสิงหา อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาที่ลงมือฆ่าย่าตัวเองตายในบ้าน ไปชี้จุดที่เกิดเหตุ ที่บ้าน หมู่ 1 ต.ขามป้อม อ.พระยืน จ.ขอนแก่น หลังชี้จุดที่เกิดเหตุ 


ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.ชลิต มรกตศรีวรรณ ผกก.สภ.พระยืน ถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.พระยืน นำตัวผู้ต้องหามาชี้จุดเกิดเหตุในครั้งนี้ว่า เนื่องจากเมื่อเวลา 21.00 น. คืนวันที่ 1 มิถุนายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.พระยืน รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีคนตายที่บ้าน หมู่ 1 ต.ขามป้อม อ.พระยืน จ.ขอนแก่น

หลังรับแจ้งพนักงานสอบสวนพร้อมด้วย พ.ต.ท.ศักดิ์สิทธิ์ สายสมบัติ รอง ผกก.สืบสวนสภ.พระยืน และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนอีกหลายนายได้ไปตรวจที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงบ้านหลังดังกล่าว พบว่า เป็นบ้านไม้สองชั้น หน้าบ้านต่อระเบียงยื่นออกมา ก็พบร่างของ น.ส.บุญมา อายุ 87 ปี เจ้าของบ้าน นอนเสียชีวิตอยู่บนแคร่ไม้ไผ่ในบ้าน สภาพศพที่หน้าผาก ที่แก้มซ้าย มีบาดแผลคล้ายของแข็งบาดเป็นแผลลึก เบ้าตาเขียวช้ำ จึงสอบถาม นายสิงหา อายุ 49 ปี หลานชาย ซึ่งนั่งอยู่ในบ้าน 


เบื้องต้นนายสิงหา บอกว่า ตนไปทำธุระ กลับเข้าบ้านมาในช่วงค่ำ ก็พบย่านอนคว่ำหน้าในห้องน้ำ คาดว่าย่าจะล้มหัวฟาดพื้น จึงรีบล้างตัวย่าแล้วอุ้มย่ามานอนห่มผ้าที่แคร่ดังกล่าว แต่ย่าไม่ตื่น จึงให้ชาวบ้านแจ้งตำรวจ เพราะเชื่อว่าย่าล้มในห้องน้ำ หัวฟาดพื้นตาย


ผกก.สภ.พระยืน กล่าวอีกว่า จากการร่วมกับแพทย์ตรวจชันสูตรบาดแผลที่หน้าผากที่แก้มของย่าแล้ว เชื่อว่าไม่ใช่บาดแผลที่เกิดจากการล้มในห้องน้ำ แต่น่าจะถูกทำร้ายแล้วเสียชีวิต แล้วคนลงมือก่อเหตุ ก็คือคนใกล้ตัวที่ลงมือฆ่าแล้วอำพรางศพคนตาย ว่าเป็นการล้มในห้องน้ำตาย และจากการตรวจสอบประวัติ และตรวจร่างกายของผู้ต้องหา ไม่พบสารเสพติด และประวัติก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดแต่อย่างใด


แต่จากการสอบถามชาวบ้าน ทราบว่า นายสิงหา เป็นลูกของลูกชายของคนตาย แต่พอนายสิงหาโตเป็นหนุ่ม ไม่ถูกกับพ่อแม่ ทำร้ายพ่อแม่ ไล่พ่อแม่ออกจากบ้าน พ่อแม่ทนไม่ได้จึงออกจากบ้านไปแล้วไม่กลับมาที่บ้านอีก คนตายซึ่งเป็นย่าจึงรับนายสิงหาเป็นบุตรบุญธรรม ยกทรัพย์สินที่ย่ามีให้นายสิงหาหมด และย่าก็ขายที่ดิน ได้เงินมาหลายแสนบาท เอาเงินให้นายสิงหาเอาไว้เลี้ยงดูตัวเอง นายสิงหาก็อาศัยอยู่ที่บ้านหลังเกิดเหตุกับย่ามาตลอด 


ต่อมานายสิงหามีภรรยาอยู่กินกันจนมีบุตรด้วยกัน สุดท้ายฝ่ายภรรยาก็พาลูกหนีไป ได้ประมาณ 5 ปี แล้วย่าจึงอยู่กับนายสิงหาที่บ้านหลังเกิดเหตุเพียง 2 คน ย่าก็แก่ชรา เดินไม่ได้ ต้องไถไปมาในบ้าน มีนายสิงหาล้างอึล้างฉี่ และหาข้าวให้กินมาหลายปีแล้ว ระยะหลังนายสิงหาทำร้ายย่าบ่อย แต่ไม่รุนแรง ชาวบ้านใกล้เคียง ทราบดี แต่ไม่มีใครอยากยุ่ง  


จนกระทั่งเวลา 19.00 น.วันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ย่าได้ไถตัวเองไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน บอกว่า นายสิงหาตี แต่ไม่นาน นายสิงหาก็เดินไปอุ้มเอาย่ากลับบ้าน และในช่วงที่เดินเข้าบ้าน นายสิงหาอุ้มย่าหลบมุมกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ในบ้าน เมื่อถึงในบ้านไม่นานก็มีเสียงทุบ 2 ครั้งแล้วก็มีเสียงย่าร้องด้วยความเจ็บปวดแล้วก็เงียบเสียงไป ต่อมาประมาณ 2 ทุ่มวันเดียวกัน นายสิงหาก็เดินออกมาบอกว่าบ้านว่าย่าล้มในห้องน้ำตายแล้ว ชาวบ้านจึงแจ้งตำรวจดังกล่าว


ผกก.สภ.พระยืน กล่าวต่ออีกว่า หลังทราบรายละเอียดจากชาวบ้าน จึงคุมตัวนายสิงหามาสอบสวน ในเบื้องต้นให้การปฏิเสธ จนกระทั่งช่วงเช้าวันที่ 2 มิถุนายน จึงให้การรับสารภาพว่า หลังจากเมียหนีก็หงุดหงิด อารมณ์เสีย และหงุดหงิดที่ย่าพิการบ่นด่า และหงุดหงิดที่ต้องคอยเก็บอึเก็บฉี่ทุกวัน จึงตบย่าไปหลายครั้ง ย่าหนีออกจากบ้านไป จึงไปอุ้มกลับมาที่บ้าน ย่าก็ยังไม่หยุดด่า จึงใช้ก้อนหินทุบที่ศีรษะที่ใบหน้าย่าไป 2-3 ครั้ง จนย่าสิ้นใจ 


จากนั้นจึงอุ้มร่างย่าเข้าไปล้างทำความสะอาดในห้องน้ำ แล้วเอาร่างย่ามานอนห่มผ้าไว้บนแคร่ จากนั้นจึงไปบอกชาวบ้านว่า ย่าล้มในห้องน้ำตายแล้ว หลังการรับสารภาพ จึงแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่น และเคลื่อนย้ายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตายนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป 

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat