วิกฤต“ปลาหมอคางดำ”ยังไม่จบ คนเลี้ยงกุ้งบอกระบาดหนักยิ่งกว่าเดิม

(18ม.ค.68) กรณีการแพร่กระจายของ“ปลาหมอคางดำ”ซึ่งเป็นสัตว์น้ำต่างถิ่น หรือ เอเลี่ยนสปีชีส์ ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกร และทำลายห่วงโซ่ตามธรรมชาติของปลาพื้นถิ่นในไทย ที่ผ่านมา มีความพยายามที่จะลดการขยายพันธุ์ของปลาสายพันธุ์นี้หลากหลายวิธี แต่ดูเหมือนว่าจำนวนของปลาหมอคางดำกลับไม่ได้ลดลงเลยนั้น

ซึ่งผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ นายยุทธนา อายุ 53 ปี ผู้เลี้ยงกุ้งธรรมชาติกว่า 700 ไร่ ในจำนวนนี้อยู่ในพื้นที่ ต.ยี่สาร อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม จำนวน 250 ไร่ บอกว่า ปลาหมอคางดำระบาดกินลูกกุ้งลูกปลา กุ้งจะเหลือเพียงประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ หากให้มาดูแลกันจริงจัง ให้ลดน้อยลงให้กำจัดให้ไม่มีผลกระทบต่อส่วนรวม 

"ที่ผ่านมาบ่อขนาด 200 ไร่ของตน ปล่อยน้ำ 6 – 7เดือน วิดทีจะได้ปลาหมอคางดำประมาณ 10 ตัน หากปล่อยไว้นานก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น เป็น 20 ตัน" นายยุทธนา ระบุ

นายยุทธนา บอกอีกว่า ล่าสุดวิดบ่อช่วงเดือนตุลาคม 2567 บ่อ 200 ไร่ ได้ปลา 20 ตัน เยอะจนต้องใช้รถแบ็คโฮช่วยยกปลาขึ้นจากบ่อ ซึ่งได้กุ้งไม่ถึง 50 กก. ถือว่าน้อยมาก จากเดิมที่ควรจะได้ 200 - 300 กก. ก่อนหน้านี้มีหน่วยงานรัฐเขาไปหาชาวบ้าน ซึ่งก็ไม่รู้ความหมายคืออะไร ก็ไม่ชัดเจน แต่ชาวบ้านก็กลัวไม่กล้าให้ข่าวกันแล้ว แต่ตนก็ขอให้ข่าวแบบกลาง ๆ ไม่ได้จะโจมตีใคร ขอให้มาพูดคุยช่วยกันแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด     

ด้าน นายวัลลภ ผู้เลี้ยงกุ้งธรรมชาติ กล่าวยืนยันว่า ขณะนี้สถานการณ์ปลาหมอคางดำระบาดยิ่งกว่าเดิมไม่ได้ลดลง หนักกว่าเก่า เพราะปลาหมอคางดำเริ่มปรับตัวมีการหลบหลีกจมอยู่ใต้น้ำประมาณ 1 คืบ ทำให้เห็นตัวได้ยาก ถ้ามาสังเกตจริง ๆ ในเวลาที่เหมาะสมจะเห็นมาเยอะมาก แต่ภาครัฐไม่ได้ดูเวลาปลาขึ้น แต่มาดูในเวลาราชการจึงมองไม่เห็น 

"นอกจากนี้พอเริ่มเป็นข่าว หน่วยงานก็เข้ามาคุยทำให้ชาวบ้านที่เดือดร้อนไม่กล้าให้ข่าว ไม่กล้าให้สัมภาษณ์ เหมือนบีบไปในตัว ล่าสุดก็เข้ามาหาบางรายก่อนหน้านักข่าว ทำให้ชาวบ้านไม่กล้าพูดอะไรมาก เช่นวันนี้ที่นัดไว้ว่าจะมีปลาประมาณ 10 ตัน เขาก็ไม่ให้เข้าไปถ่ายภาพ กลัวบางอย่างที่ทำให้เดือดร้อน" นายวัลลภ กล่าว

นายวัลลภ บอกด้วยว่า และยังมีข่าวว่าใครให้สัมภาษณ์เกินจริงจะมีการฟ้อง เพราะกลัวชาวบ้านให้ข่าวแล้วชื่อเสียงจะเสียหาย ทั้งที่หน่วยงานให้ข่าวว่ากำจัดจนเหลือน้อย แต่ข้อเท็จจริงก็ระบาดหนักอยู่แล้ว จึงขอให้เข้ามาแก้ปัญหาโดยด่วน เพราะขณะนี้ภาคตะวันออกลงอ่าวคุ้งกระเบน จ.จันทบุรี , ทางใต้หลุดไปถึงจังหวัดสงขลา 

"หวั่นจะลามไปประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ซึ่งหากออกไปประเทศเพื่อนบ้านประเทศไทยอาจจะถูกเพื่อนบ้านฟ้องทำให้ต้องเอางบประมาณแผ่นดินไปจ่ายค่าชดเชยก็เป็นได้ จึงหากให้ควบคุมกำจัดให้เร็วที่สุด" นายวัลลภ ระบุ 

นายวัลลภ กล่าวอีกว่า ถ้าไม่รีบกำจัดจะเกิดวิกฤติทางอาหาร ชาวบ้านจะไม่สามารถหาปลาอะไรกินได้เลย ชาวบ้านต้องกินกุ้งถุง กุ้งกล่อง สัตว์ทะเล ต้องซื้อจากต่างประเทศ ขณะนี้ชาวบ้านเดือดร้อนหนักเพราะปลาหมอคางดำไม่ได้กินแต่กุ้งและสัตว์น้ำธรรมชาติ  

"แต่ยังกินโฉนด กินชีวิตคน กินอนาคตของบุตรหลานคนไทยที่ ครอบครัวต้องสิ้นเนื้อประดาตัวจากอาชีพทำประมงที่ล่มสลาย ไม่มีเงินจะไปส่งเรียนหนังสือ ที่ผ่านมาเคยมีข่าวรัฐบาลอนุมัติงบ 450 ล้านลงมาแก้ไขปัญหา แต่ก็ยังเงียบอยู่ยังไม่มีความชัดเจนเลย" นายวัลลภ ระบุ

ข่าวเวิร์คพอยท์23