EOD ลุยตรวจทั่วภูเก็ต หลังพบเบาะแสรถซุกระเบิดหน้าสนามบิน

25 มิ.ย.68 เจ้าหน้าที่ระดมกำลังตรวจเข้มทั่วจังหวัดภูเก็ต หลังการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมวัตถุระเบิดในพื้นที่จังหวัดพังงา โดยพบว่าผู้ต้องหาเคยเดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ตก่อนก่อเหตุ

มีรายงานจากชาวบ้านว่า พบวัตถุต้องสงสัยบริเวณแหลมพรหมเทพ เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดนานกว่า 2 ชม. แต่ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ ขณะเดียวกัน ในพื้นที่ป่าตอง หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) และสุนัขตำรวจ (K9) ได้เข้าตรวจสอบเช่นกัน แต่ไม่พบวัตถุอันตรายใดๆ

ล่าสุด ตำรวจพบ รถ จยย.ต้องสงสัยจอดอยู่บริเวณลานจอดรถพนักงานด้านหน้าท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต โดยจากภาพกล้องวงจรปิดพบว่า คนร้ายเดินทางเข้ามาในพื้นที่โดยใช้รถยนต์ 1 คัน และรถจักรยานยนต์ 3 คัน แต่ขณะเดินทางออกไป เหลือเพียงรถยนต์ 1 คัน และรถจักรยานยนต์ 2 คันเท่านั้น

ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยคันที่เหลือ ซึ่งเป็นรถเบาะสีแดง คาดว่ายังจอดอยู่ในลานจอดรถพนักงานของสนามบินภูเก็ต เพื่อหาความเชื่อมโยงกับผู้ต้องหาและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

โดยสถานการณ์ตึงเครียดเกิดขึ้นในจังหวัดภูเก็ตเมื่อช่วงค่ำวันที่ 24 มิถุนายน 2568 เมื่อเวลา 17.30 น. หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง ได้รับแจ้งจากประชาชนว่าพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดถูกซุกซ่อนอยู่บริเวณแหลมพรหมเทพ ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาชมพระอาทิตย์ตกดิน

พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบทันที พร้อมประสานหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) เข้าปฏิบัติภารกิจ โดยได้ปิดกั้นพื้นที่และแจ้งให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติทยอยออกจากจุดชมวิว ก่อนจะเริ่มเคลียร์พื้นที่ โดยใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง ท่ามกลางความมืดและสภาพพื้นที่จำกัด สุดท้ายไม่พบวัตถุต้องสงสัยในจุดเกิดเหตุ

ต่อเนื่องในเช้าวันที่ 25 มิถุนายน 2568 เจ้าหน้าที่ขยายมาตรการรักษาความปลอดภัยไปยังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งคือ “ชายหาดป่าตอง” ถ.ทวีวงศ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ พ.ต.อ.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษ์ศาสน์ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต นำกำลังเจ้าหน้าที่ EOD เจ้าหน้าที่ สภ.ป่าตอง ชุดสืบสวน และสุนัขดมกลิ่น K9 ลงพื้นที่ตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยและสิ่งแปลกปลอมที่อาจเป็นภัยอันตรายต่อชีวิตประชาชน นักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการในพื้นที่

การตรวจค้นที่หาดป่าตองใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเช่นกัน แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติหรือวัตถุต้องสงสัยใดๆ จึงประกาศยุติปฏิบัติการในช่วงเที่ยงวัน แต่ยังคงมีแผนจัดกำลังลาดตระเวนตามแหล่งท่องเที่ยวหลักทั่วจังหวัดภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยสูงสุดและสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชน