“น้ำท่วมปัตตานี”ยังวิกฤต มวลน้ำยะลา - นราธิวาส ไหลบ่าท่วม 12 อำเภอ

(30พ.ย.67) ที่ จ.ปัตตานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์“น้ำท่วมปัตตานี”ยังคงวิกฤตอย่างหนักมวลน้ำจากยะลาและนราธิวาสยังคงไหลลงมายัง จ.ปัตตานี อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีน้ำทะเลหนุนสูง ส่งผลให้น้ำที่เข้าท่วมทุกพื้นที่ทั้ง 12 อำเภอ มีน้ำขึ้นเป็นระยะ ๆ กระจายเป็นวงกว้าง ประชาชนได้รับความเดือดร้อน เกือบทุกพื้นที่มีการอพยพชาวบ้านไปยังที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวของแต่ละอำเภอ

ขณะที่บนถนนสายหลักใน อ.หนองจิก ฝั่งขาออกตัวเมืองปัตตานีมีน้ำท่วมสูง 40 - 50 ซม. บางช่วงรถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ ต้องใช้ถนนเลนเดียวฝั่งขาเข้าปัตตานี โดยทางเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงปัตตานีได้นำรถเครนมายกแผงแบร์ริเออร์ที่อยู่เกาะกลางถนนออก เพื่อให้น้ำระบายไปอีกฝั่งได้คล่องตัว ส่วนชาวบ้านที่อยู่ติดกับริมแม่น้ำต้องนำกระสอบทรายมากันเพิ่ม เพื่อไม่ให้น้ำทะลัก แต่ก็เอาไม่อยู่

เช่นเดียวกัน ต.ดอนรัก อ.หนองจิก ซึ่ง มี 7 หมู่บ้าน ขณะนี้ 1,159 ครัวเรือน ได้รับผลกระทบอย่างหนักบ้านทุกหลังถูกน้ำท่วม บางหลังเกือบมิดบ้าน เส้นทางเข้าหมู่บ้านรถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรได้ เนื่องจากระดับน้ำสูง 80- 1 เมตร บางจุด 2เมตร แต่เนื่องด้วยชาวบ้านที่นี่ ไม่เคยเจอกับสถานการณ์นี้มาก่อน จึงไม่มีเรือใช้ ทำให้ต้องเดินเข้าออกหมู่บ้านเป็นระยะทางหลาย กม.

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ต้องค่อยอพยพชาวบ้านมาเกือบทุกหลัง ที่อยู่ภายในออกมาอยู่ที่โรงเรียนบ้านดอนรัก ซึ่งเป็นจุดพักพิงชั่วคราว เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นบ้านชั้นเดียว ทำให้ข้าวของเสียหายหมด เนื่องจากชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว และไม่คิดว่าน้ำจะมาเร็ว โดยเหตุการณ์ดังกล่าว ชาวบ้านบอกเคยเกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว แต่ครั้งนี้หนักกว่าหลายเท่า

อย่างไรก็ตาม ในอำเภอหนองจิก ยังมีอีกหลายตำบลที่ยังคงได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน ซึ่งมี 3เทศบาลตำบล 11 ตำบล 14,891 ครัวเรือน 44,673คน ได้รับความเดือดร้อน

นางสาวนวลอนงค์ โลกวัฒนเสถียร ชาวบ้านตำบลดอนรัก เปิดเผยว่า บ้านตนได้รับความเสียหายหนัก ทั้ง จยย. เสื้อผ้า จมไปกับน้ำทั้งหมด บ้านตนระดับน้ำอยู่ที่หน้าออก แต่ถ้าเข้าไปอีกนิดระดับน้ำก็จะมิดหัวไปเลย ตอนนี้ได้รับความเดือดร้อนหนัก จยย. ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เสียทั้งหมด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรู้สึกตกใจมาก เพราะตั้งแต่อยู่มาก็ไม่เคยเกิดขึ้นแบบนี้มาก่อน ตอนนี้ก็อยากให้ช่วยเหลือเอา จยย.ออกมา