ไฟป่าโหมหนักเทือกเขาภูแลนคา-ภูผาแดง วอดแล้วกว่า 400 ไร่

(23 มี.ค.68) ที่ จ.ชัยภูมิ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่สถานการณ์ค่า PM 2.5 เริ่มกลับมาพุ่งสูงต่อเนื่องหนักในช่วงหน้าแล้งปีนี้ หลังเกิดสถานการณ์ไฟไหม้ป่าต่อเนื่อง หลังนายเด่น รัตนชัย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูแลนคา จ.ชัยภูมิ ที่ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าทั้งหมดในพื้นที่นับร้อยนาย ออกดับไฟป่าที่ลุกลามในเขตอุทยานฯ เทือกเขาภูแลนคามาต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้ (22 มี.ค.68) โดยไฟไหม้จุดที่ใกล้กับหมู่บ้านวังเดือนห้า , บ้านสามพันตา และบ้านเหมือดแอ่ ต.ห้วยต้อน อ.เมืองชัยภูมิ ซึ่งได้มีการระดมกำลังวางแผนและแบ่งกำลังนำ จนท.ภูแลนคา และสถานีควบคุมไฟป่าตาดโตน-ภูแลนคา , เครือข่ายอาสาพิทักษ์ป่า อช.ภูแลนคา , ผู้นำชุมชนและชาวบ้านรอบแนวเขตอุทยานแห่งชาติภูแลนคา ร่วมกันออกดับไฟป่า ตามจุดที่ไฟโหมรุนแรงตั้งแต่เมื่อคืน (22 มี.ค.68) จนถึงตอนเช้า (23 มี.ค.68) ที่ผ่านมา

ขณะนี้เจ้าหน้าที่เริ่มที่จะควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่อื่นได้เกือบหมดแล้ว คงเหลือกองไฟเถ้าถ่านที่ยังคุกรุ่นบางส่วน มีพื้นที่ป่าไม้ถูกไฟป่าเผาเสียหายไปแล้วมากกว่า 200 ไร่ เจ้าหน้าที่ได้เร่งทำแนวกันไฟ ป้องกันไม่ให้ไฟลุกลามขึ้นอีก โดยยังคงต้องจัดเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าที่ยังดับไม่สนิท เฝ้าระวังคอยควบคุมไม่ให้ปะทุขึ้นอีก

ด้าน นายก อบต.บ้านแก้ง อ.แก้งคร้อ ก็ได้รับแจ้งเกิดไฟไหม้ป่า บนภูเขาภูผาแดง พบเกิดเปลวไฟสีแดงไปทั้งภูเขา ได้ระดมเจ้าหน้าที่ อบต.บ้านแก้ง ออกดับไฟป่าร่วมกับเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าชัยภูมิ และอีกหลายฝ่ายขึ้นช่วยกัน เข้าสกัดไฟป่าทั้งคืนผ่านมาหนักอีกจุดเช่นกัน จนถึงตอนเช้าวันนี้ ไฟป่าที่โหมลุกไหม้แดงเทือกทั้งภูเขาเริ่มเบาบางลง แต่ยังพบไฟป่าบางส่วนยังลุกลามต่อเนื่องขึ้นไปบนยอดภูเขาผาแดง ซึ่งมีสภาพป่าหน้าทึบ สูงชัน อยากต่อการเข้าดับไฟทั้งหมดได้ง่าย คงต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่จากทุกพื้นที่เข้มมาเพิ่มเติม เพื่อเข้าช่วยดับไฟป่าต่อเนื่องในคืนนี้ คาดว่าในวันพรุ่งนี้ (24 มี.ค.68) จะสามารถควบคุมไฟป่าให้สงบลงได้

ไฟป่าครั้งนี้ สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ป่าบนภูผาแดงไปแล้วอีกไม่น้อยกว่า 200 ไร่ รวมเกิดไฟป่าจากเมื่อคืนวานนี้ มีพื้นที่ป่าไม้ถูกไฟไหม้บนเทือกเขาภูแลนคา อ.เมืองชัยภูมิ และ อ.แก้งคร้อ รวม 2 พื้นที่เสียหายแล้วมากกว่า 400 ไร่

ทางอุทยานฯภูแลนคา ได้ออกประกาศปิดป่า ห้ามประชาชนเข้าไปในพื้นที่อุทยานฯ แล้ว จนถึงวันที่ 31 พ.ค.68 นี้ไว้ก่อน จนกว่าจะควบคุมสถานการณ์ไฟป่าได้ทั้งหมดต่อไป นอกจากนั้น ตามมาตรา 41 ที่จะมีการขยายผลทางกฎหมาย ที่หากพบว่า มีผู้ใดยึดถือหรือครอบครองที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้เสื่อมสภาพหรือเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ไปจากเดิมในอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน สวนพฤกษศาสตร์ หรือสวนรุกขชาติ อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 19 (1) ที่จะต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี หรือปรับตั้งแต่ 400,000 - 2,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับต่อไป - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน