ธ.ออมสินเปิดจุดบริการเพิ่ม คนขอนแก่นแห่ผูกบัญชีพร้อมเพย์

(19 ก.ย. 67) ที่ธนาคารออมสิน สาขาศูนย์ราชการ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศประชาชนกลุ่มเปราะบางเดินทางมาลงทะเบียนพร้อมเพย์เพื่อเตรียมพร้อมในการรับเงิน 10,000 บาท จากโครงการของทางรัฐบาล ซึ่งมีการใช้ชื่อโครงการใหม่ว่า “โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ”กันอย่างคึกคัก ซึ่งจะเริ่มทยอยจ่ายเงินตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2567 นี้เป็นต้นไป โดยผู้ได้รับสิทธิ์ จะได้รับเงินจำนวน 10,000 บาทต่อคน ผ่านระบบบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประชาชนของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ 

โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักตั้งแต่ธนาคารออมสินเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 08.30 น. ประชาชนทั่วไปและประชาชนที่เป็นกลุ่มเปราะบางได้เดินทางมากดบัตรคิวรอเข้ารับบริการเป็นจำนวนมากกว่าทุกๆวัน โดยส่วนใหญ่มาในเรื่องของการลงทะเบียนพร้อมเพย์กับบัญชีของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและตรวจสอบการลงทะเบียนพร้อมเพย์ของตัวเอง เนื่องจากไม่มั่นใจว่าตัวเองได้ผูกพร้อมเพย์ไว้กับบัญชีแล้วหรือยัยง ทำให้เกิดความกังวลกลัวว่าจะไม่ได้รับเงิน 10,000 บาทจากโครงการของทางรัฐบาล

ขณะที่ทางธนาคารออมสินเอง ได้เปิดจุดบริการพิเศษโดยเฉพาะ สำหรับผู้ที่มาทำธุรกรรมในเรื่องของการลงทะเบียนพร้อมเพย์ และสอบถามสถานะการลงทะเบียนว่ามีการลงทะเบียนไปก่อนหน้านี้สำเร็จแล้วหรือไม่ โดยมีเจ้าหน้าที่ของทางธนาคารออมสิน นำเครื่องซูโม่มาไว้คอยอำนวยความสะดวกในเรื่องของการลงทะเบียนพร้อมเพย์ให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น และจากการสอบถามชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างดีใจที่จะได้รับเงิน 10,000 บาทจากโครงการของทางรัฐบาล เพื่อนำไปใช้จ่ายในครอบครัวและต่อยอดในการทำการเกษตร

นาย ศราวุธ สุขเลิศตระกูล ผู้อำนวยการเขต 1 ธนาคารออมสินภาค 11 ซึ่งได้เดินพูดคุยสอบถาม และอำนวยความสะดวกกับประชาชนที่มาใช้บริการในธนาคารออมสิน สาขาศูนย์ราชการในวันนี้ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า บรรยากาศประชาชนมาลงทะเบียนพร้อมเพย์ในพื้นที่ให้บริการของทางธนาคารออมสินเขต 1 ทั้ง 11 สาขาทั่วจังหวัดขอนแก่นนั้น เป็นไปอย่างคึกคัก ซึ่งได้มีการเปิดจุดลงทะเบียน และเพิ่มเจ้าหน้าที่มาคอยอำนวยความสะดวกสำหรับบริการพร้อมเพย์โดยเฉพาะในทุกสาขา

โดยแต่ละสาขานั้นพบว่ามีประชาชนในกลุ่มเปราะบางที่เดินทางมาในเรื่องของการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้นมีเพิ่มขึ้นจากปกติอีก 200-300 คน ต่อวัน ซึ่งมีทั้งผู้มาลงทะเบียนใหม่ และมาสอบถามว่าตัวเองได้ลงทะเบียนพร้อมเพย์ผูกกับบัญชีเรียบร้อยแล้วหรือไม่ ภายหลังจากทางรัฐบาลมีโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจแจกเงิน 10,000 บาท ทำให้เกิดความไม่มั่นใจว่าได้ลงทะเบียนผูกพร้อมเพย์ไปแล้วหรือยัง

ซึ่งปัญหาที่พบจะมีบางกลุ่ม คือกลุ่มคนพิการหรือกลุ่มเปราะบางที่ไม่สามารถเดินทางมาธนาคารได้ ซึ่งทางธนาคารก็เตรียมหาวิธีเข้าไปอำนวยความสะดวกโดยเตรียมจัดเจ้าหน้าที่นำเครื่องซูโม่ ลงพื้นที่ไปหาชาวบ้านกลุ่มเปราะบางกลุ่มนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องของการเดินทาง และหากใครสามารถพากลุ่มเปราะบางเหล่านี้มาได้ทางเจ้าหน้าที่เราก็จะมีเครื่องซูโม่เข้าไปช่วยอำนวยความสะดวกให้ ส่วนปัญหาทั่วไปนั้นจะมีเพียงวันแรกที่ประชาชนทราบข่าวเรื่องของการผูกบัญชีพร้อมเพย์เตรียมพร้อมรับเงิน ทำให้ประชาชนแห่เข้ามาใช้บริการจนแน่นทุกสาขา ซึ่งแต่ละสาขาก็ได้มีการบริหารจัดการอำนวยความสะดวกไปเป็นที่เรียบร้อย

นายคำพันธ์ อายุ 59 ปี ซึ่งเดินทางมาตรวจสอบบัญชีพร้อมพ์ของตนเองเพราะไม่มั่นใจว่ายังอยู่เหมือนเดิมหรือไม่ กลัวว่าจะไม่ได้รับเงิน 10,000 บาท จากทางรัฐบาล ซึ่งตอนที่ตนเองทราบว่าเป็นกลุ่มที่จะได้รับเงิน 10,000 บาท รู้สึกดีใจ ส่วนตัวตั้งใจจะนำเงินไปใช้สอยในชีวิตประจำวัน อยากขอบคุณทางรัฐบาลที่มีโครงการดีดีเหล่านี้ขึ้นมาช่วยเหลือ 

เช่นเดียวกับ น.ส.หนูไกร อายุ 65 ปี พายายมาลงทะเบียนพร้อมเพย์ เพราะยายเป็นกลุ่มเปราะบางไม่มีสมาร์ทโฟน และยายอายุมากจึงได้พาเดินทางมาลงทะเบียนพร้อมเพย์ผูกกับบัญชีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในวันนี้ เพื่อรอรับเงิน โดยตัวคุณยายเองก็ทราบว่าจะได้รับเงิน เพราะลูกหลานมาพูดให้ฟังอยู่ตลอด โดยยายบอกว่าจะนำเงินที่ได้มาใช้จ่ายในบ้านและให้ลูกหลานใช้ด้วย ซึ่งบรรยากาศในวันนี้มีคนมาเยอะมาก แต่การบริการก็รวดเร็วและประทับใจทุกครั้งที่มา

ด้านนายสุวรรณ อายุ 71 ปี บอกว่าตนเองเคยลงทะเบียนพร้อมเพย์ไปแล้ว จึงได้เดินทางมาตรวจสอบกับทางธนาคารว่าที่ลงทะเบียนพร้อมเพย์ไปก่อนหน้านี้ได้ผูกพร้อมเพย์กับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแล้วหรือยัง เพื่อรอรับเงินจากโครงการมาไว้ใช้ ส่วนตัวตั้งใจจะนำเงินมาใช้จ่ายในครอบครัวและนำไปซื้อเครื่องตัดหญ้ารวมทั้งเครื่องทุ่นแรงในการทำการเกษตรของตัวเอง อยากให้มีโครงการดีดีแบบนี้อีก เกิดมายังไม่เคยได้รับเงินเป็นก้อนขนาดนี้ มีแต่ลูกส่งเงินมาให้ใช้ในแต่ละเดือน ซึ่งหากได้มาก็รู้สึกดีใจอย่างมาก