ฮือฮา! "แอ็คมี่" ประกาศให้รัฐบาลกู้ Bitcoin โดยไม่คิดดอกเบี้ย

ทำเอาวงการบันเทิงฮือฮากันอีกครั้ง เมื่อ "แอ็คมี่ วรวัฒน์" นักร้องนำวงร็อก DoubleDeep ได้มีการโพสต์ข้อความประกาศทางเพจเฟสบุ๊กส่วนตัวว่า "ถ้าประเทศไทยต้องการ "Bitcoin" (BTC) เพื่อเป็นกองทุนสำรอง สามารถติดต่อได้ที่ inbox" จนทำให้เกิดกระแสฮือฮาเป็นไวรัล จนมีการแชร์ออกไปในวงกว้างทั้งสื่อในไทยและสื่อหลักของต่างประเทศไม่ว่าเป็น AP News, Morning Star, MarketWatch, DigitalJournal, GlobeNewsWire ฯลฯ โดยสื่อหลายสำนักระบุว่าแอ็คมี่อาจจะมี Bitcoin อยู่ไม่น้อยกว่า 11,000 BTC เลยทีเดียว และนั่นอาจเป็นที่มาที่ทำให้เขา อาจหาญประกาศตู้มไปแบบนั้นต่อสาธารณะก็เป็นได้ 

และไม่กี่วันที่ผ่านมา อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ได้มีการกล่าวบนเวทีสัมมนาที่สนับสนุนให้มีการใช้ Bitcoin ในประเทศ และบอกว่าอาจจะใช้ภูเก็ตเป็นแซนด์บ็อกเพื่อให้คนถือ Bitcoin ทั่วโลกมาใช้เงินในแหล่งท่องเที่ยวให้สะพัด ซึ่งเป็นจังหวะทิ้งห่างกันไม่นาน หลังจากโพสต์ที่ฮือฮาดังกล่าว ล่าสุด แอ็คมี่ ก็ได้ออกมาแสดงความยินดีที่อดีตนายกสนับสนุนแนวคิดนี้ และบอกพร้อมให้รัฐกู้ Bitcoin ที่มีอยู่ไปเป็นทุนสำรองประเทศแบบไม่คิดดอกเบี้ยเลยแม้แต่บาทเดียว โดยได้กล่าวว่า

"ดีใจมากครับเพราะท่านมีวิสัยทัศน์ในเรื่องนี้ และสอดคล้องกับแนวคิดที่ผมสนับสนุนให้ไทยใช้ Bitcoin เป็นกองทุนสำรองของประเทศ โดย Bitcoin ทั้งหมดที่ผมมีจากการขุดมันมาตั้งแต่ปี 2012 นั้นก็ยังไม่เคยคิดที่จะขายออกไปเลย และตอนนี้ผมอยากนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วยการปล่อยกู้ให้กับรัฐบาลโดยไม่คิดดอกเบี้ย เพราะคิดว่านี่จะช่วยสร้างความได้เปรียบให้กับประเทศไทยในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจยุคดิจิทัล และมีอำนาจต่อรองทางเศรษฐกิจกับนานาชาติได้ รวมทั้งสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกในยุคปัจจุบันที่ระบบการเงินโลกใหม่ได้เข้ามาแทรกแซงการเงินยุคเก่าไปแล้วได้ดียิ่งขึ้น ย้ำอีกครั้งนะครับว่าผมยินดีให้รัฐบาลกู้โดยไม่คิดดอกเบี้ยแม้แต่บาทเดียว"

แถมทิ้งท้ายอีกนิด นอกจากที่ แอ็คมี่ จะสนใจเรื่องของเทคโนโลยีบล็อกเชนและ Bitcoin แล้ว เขาก็ได้เอาความรู้ในเรื่องนี้มาใช้โดยการก่อตั้งสกุลเงินดิจิทัล ACT(ACET) ซึ่งมีอายุกว่า 3 ปี แถมยังมีมูลค่าการซื้อขายรวมถึงปัจจุบัน ประมาณ 395,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 13,825,000,000 บาท โดยมีผู้ถือครองเหรียญ ACT(ACET) มากกว่า 156,000 คนจากทั่วโลกอีกต่างหาก เรียกได้ว่าตอนนี้เขาก็เป็นนักธุรกิจหนุ่มเนื้อหอมชื่อดังไปถึงระดับโลกกันเลยทีเดียว