ชาวบ้านถูกฟ้อง 30 ล้านบาท เหตุคัดค้านสร้างแพลนท์ปูนใกล้ชุมชน
ชาวบ้านถูกฟ้อง 30 ล้านบาท เหตุคัดค้านสร้างแพลนท์ปูนใกล้ชุมชน

ชาวบ้านพานทอง ชลบุรี รวมตัวร้องสภาทนายความ หลังถูกฟ้องเรียกค่าเสียหาย 30 ล้านบาท จากกรณีรวมตัวกันคัดค้านโรงงานปูนใกล้ชุมชน
(23 มิ.ย. 68) ที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ นายชวาล พลเมืองดี ส.ส.พรรคประชาชน จ.ชลบุรี พร้อมตัวแทนชาวบ้าน ในพื้นที่อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี มาขอคำปรึกษาด้านกฎหมายจากทางสภาทนายความฯ หลังถูก โรงงานแพลนท์ปูน ในพื้นที่ฟ้องร้องดำเนินคดี ฐานละเมิด พร้อมเรียกค่าเสียหาย 30 ล้านบาท จากกรณีที่ชาวบ้านยื่นคัดค้านไม่ให้ตั้งโรงงานแพลนท์ปูนในพื้นที่ เพราะเป็นห่วงเรื่องสุขภาพอนามัยของคนในชุมชน ที่ต้องได้รับผลกระทบจากฝุ่น ควัน และเสียง
ตัวแทนชาวบ้านที่ถูกฟ้องดำเนินคดี ระบุว่า ชาวบ้านในพื้นที่รวมตัวกันคัดค้านการตั้งโรงงานแพลนท์ปูนดังกล่าว ซึ่งทราบว่า เป็นการลงทุนของนายทุนคนจีน โดยชาวบ้านเกรงว่า การมาตั้งโรงงานแพลนท์ปูในพื้นที่จะทำให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบทางด้านสุขภาพ ทั้ง ฝุ่น ควัน และเสียงจากการประกอบกิจการ ที่ผ่านมา มีการทำประชาคนชาวบ้านในพื้นที่ โดยเสียงส่วนใหญ่ ไม่ต้องการให้มีการตั้งโรงงานดังกล่าว จึงยื่นเรื่องคัดค้านไปที่อุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี กระทั่งอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรีมีคำสั่งให้โรงงานแพลนท์ปูน ระงับการกระทำที่ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2535 และส่งเรื่องดำเนินคดีกับทางโรงงานในข้อหา ตั้งโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ล่าสุด ตนเองกลับถูกทางบริษัทของแพลนท์ปูนฟ้องฐานละเมิด พร้อมเรียกค่าเสียหาย 30 ล้านบาท โดยทางฝ่ายบริษัทดังกล่าวอ้างว่า ตนเองกับชาวบ้านไปยื่นหนังสือคัดค้าน ทำให้เขาไม่ได้รับใบอนุญาต จนทำให้โรงงานเสียหาย
ทางด้าน นายชวาล พลเมืองดี สส.พรรคประชาชน จ.ชลบุรี กล่าวว่า ตนเองในฐานะ สส.ในพื้นที่ ได้พาตัวแทนชาวบ้านที่ถูกบริษัทของแพลนท์ปูน ดังกล่าวฟ้องร้องดำเนินคดี เพื่อขอคำปรึกษาด้านกฎหมายกับทางสภาทนายความฯ ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีการประสานไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งอุตสาหกรรมจังหวัดที่มีอำนาจ ตามพ.ร.บ. โรงงาน โดยตรง และชาวบ้านเองก็มีการประสานไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชลบุรี โดยทางรองผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ทำหนังสือตอบกลับมาชัดเจนว่า โรงงานแห่งนี้ประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต
ขณะเดียวกัน นายชวาล ยังตั้งข้อสังเกต ถึงกลุ่มทุนจีน ที่เข้ามาตลาดในบ้านเรา ว่ามีลักษณะคล้ายกันโดยจัดการทุกอย่างเองทั้งหมดตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ในส่วนของตนเองในฐานะผู้แทนราษฎร ก็จะมีการติดตามเรื่องนี้และให้ความช่วยเหลือชาวบ้านในทุกช่องทาง และคงต้องติดตามกับทุกหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ รวมถึงตัว พ.ร.บ.โรงงานที่ทุกวันนี้มีปัญหาในเรื่องของบทลงโทษ และในอีกหลาย ๆ เรื่อง ตอนนี้ก็อยู่ในระหว่างการแก้ไข พ. ร. บ. โรงงาน ก็คงรอเข้าที่ประชุมสภาฯ ในอนาคต
ทางด้านนายสุชาติ ชมกุล อุปนายกฝ่ายกิจการพิเศษ สภาทนายความฯ กล่าวว่า ในเบื้องต้น ทราบว่า ชาวบ้านที่ถูกฟ้องดำเนินคดี เพิ่งตั้งทนายความดูแลคดีไปเมื่อไม่นานนี้ แต่กรณีนี้ มีความเกี่ยวข้องกับชาวบ้านจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบ ก็จะเข้าเงื่อนไขใน 2 ส่วน คือ เรื่องของสิ่งแวดล้อม และอีกส่วน คือเรื่องประโยชน์สาธารณะคือชาวบ้านได้รับผลกระทบจากการตั้งโรงงานจำนวนมาก ซึ่งสภาทนายความฯ มีคณะทำงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านคดีสิ่งแวดล้อม หลายคน และอยากให้ชาวบ้านสบายใจได้ว่า สภาทนายความฯจะอยู่เคียงข้างประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากการถูกฟ้องร้องคดีที่ไม่เป็นธรรมอย่างแน่นอน
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
