มหาเศรษฐีนีเวียดนามเจออีกคดี หลังเพิ่งถูกศาลสั่งประหารชีวิต 'คดีฉ้อโกง'
มหาเศรษฐีนีเวียดนามเจออีกคดี หลังเพิ่งถูกศาลสั่งประหารชีวิต 'คดีฉ้อโกง'
มหาเศรษฐีนีเวียดนามอ่วม! เจออีก 1 คดี หลังเพิ่งถูกศาลตัดสินประหารชีวิตไปเมื่อต้นปีนี้ในคดีฉ้อโกงเงินครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศ
19 ก.ย.67 ที่โฮจิมินห์ซิตี้, เวียดนาม – สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นางเจือง หมี หลาน นักธุรกิจและมหาเศรษฐีชาวเวียดนามเชื้อสายจีน -ประธานบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ Van Thinh Phat วัย 67 ปี กลับมาขึ้นศาลอีกครั้งในคดีที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน หลังเพิ่งถูกศาลตัดสินโทษประหารชีวิตในเดือนเมษายน จากคดีฉ้อโกงเงินธนาคาร Saigon Commercial Bank (SCB) มูลค่ากว่า 27 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยขณะนี้เธออยู่ระหว่างยื่นอุทธรณ์คำตัดสิน
วันที่ 11 เมษายน 2567
นางหลานและจำเลยร่วมอีก 33 คน ถูกส่งตัวมาขึ้นศาลที่โฮจิมินห์ซิตี้ ท่ามกลางเหยื่อผู้เสียหายหลายรายและประชาชนราว 1,000 คน ซึ่งมาคอยสังเกตการณ์ด้านนอกหวังเข้าฟังการพิจารณาคดี ซึ่งการพิจารณาดังกล่าวในครั้งนี้มีทนายฝ่ายจำเลยเกือบ 100 คนเข้าร่วม และจัดที่นั่งให้ประชาชนในพื้นที่รอบศาล พร้อมการถ่ายทอดสดผ่านจอขนาดใหญ่
วันที่ 19 กันยายน 2567
นางหลาน วัย 67 ปี ต้องเผชิญกับข้อหาฟอกเงินจากการย้ายเงินข้ามพรมแดนอย่างผิดกฎหมายและข้อกล่าวหา'ฉ้อโกง'ที่สร้างความเสียหายแก่ผู้เสียหายกว่า 36,000 ราย ซึ่งทำให้เกิดการประท้วงในเวียดนาม ทั้งนี้การพิจารณาคดีดังกล่าวคาดว่าจะต้องใช้เวลากว่าหนึ่งเดือนในการไต่สวน-ตัดสิน
หนึ่งในผู้เสียหาย วัย 47 ปี เปิดเผยว่าต้องสูญเสียเงิน 1.7 พันล้านดง (ประมาณ 69,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ) ซึ่งเป็นเงินที่สะสมมาด้วยความยากลำบาก หลังจากลงทุนในพันธบัตรของ Saigon Commercial Bank (SCB) เมื่อปี 2565 เหตุการณ์นี้ทำให้เขาตกอยู่ในภาวะซึมเศร้าและส่งผลกระทบต่อชีวิตครอบครัว
สื่อยังรายงานข้อมูลอีกโดยระบุว่า นางหลานและผู้ร่วมกระทำความผิดทั้งหมด ได้ยักยอกเงินกว่า 18 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ผ่านการออกพันธบัตรระหว่างปี 2561 ถึง 2565 และทำสัญญาปลอมเพื่อโอนเงินไปต่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีการเคลื่อนย้ายเงินสดจำนวนมหาศาลจาก Saigon Commercial Bank (SCB) ไปยังบ้านของเธอ และสำนักงานใหญ่ของบริษัท
คดีการฉ้อโกงครั้งนี้สร้างความเสียหายรวมกว่า 27 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็น 6% ของ GDP ของเวียดนามในปี 2566 และเป็นส่วนหนึ่งของการปราบปรามการทุจริตครั้งใหญ่ที่รัฐบาลเวียดนามกำลังดำเนินการอย่างเข้มข้น