ไฟป่าผลาญแคลิฟอร์เนีย อพยพเกือบ 2 แสนชีวิต
ไฟป่าผลาญแคลิฟอร์เนีย อพยพเกือบ 2 แสนชีวิต
ไฟป่าแคลิฟอร์เนียยังวิกฤต ผลาญพื้นที่ครึ่งแสนไร่ ประชาชนต้องอพยพเกือบ 2 แสนชีวิต ฝ่ายขวาฉวยจังหวะซัดเป็นความผิดนโยบายส่งเสริมความหลากหลาย-สิ่งแวดล้อม
(10 ม.ค. 68) ไฟป่าที่แคลิฟอร์เนียยังคงวิกฤต หลังเริ่มปะทุมาตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา โดยสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าเกิดการปะทุของไฟป่าใน 7 จุด ตอนนี้ควบคุมได้แล้ว 2 ยังเหลืออีก 5 จุดที่ควบคุมไม่ได้ กินพื้นที่ราว 50,000 ไร่
ไฟป่าที่ย่านแปซิฟิก พาลิเสดส์ ทางตะวันตกของนครลอส แอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นจุดแรกที่เกิดการปะทุ ขณะนี้ที่จุดนี้มีอาคารบ้านเรือนถูกไฟเผาไปแล้วหลายพันหลัง ซึ่งรวมถึงบ้านหรูของบรรดาคนดังฮอลลีวูดและบุคลคลมีชื่อเสียงด้วย
ไฟป่าสร้างความเสียหายต่อระบบโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งระบบท่อระบายน้ำ น้ำประปาและไฟฟ้าได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยล่าสุดตัวเลขผู้ที่ยังคงไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้อยู่ที่ประมาณ 400,000 คน และมีประชาชน 180,000 คน ที่ต้องอพยพหนีภัยไฟป่าที่สร้างความเสียหายมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของลอส แอนเจลิส
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมากกว่า 7,500 คนที่ระดมกำลังเร่งเข้าควบคุมสถานการณ์กันตลอดทั้งวันทั้งคืน รวมทั้งค้นหาประชาชนที่ยังติดค้างอยู่ตามอาคารต่างๆ เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิต 5 ราย แต่เจ้าหน้าที่เชื่อว่าตัวเลขจริงจะสูงกว่านั้น
ทางด้านฝ่ายอนุรักษ์นิยมก็ออกมาประณามการรับมือในครั้งนี้ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา และรัฐบาลแคลิฟอร์เนีย โดยหาว่านโยบายแบบฝ่ายซ้าย หรือนโยบาย WOKE มีส่วนทำให้การรับมือย่ำแย่จนความเสียหายลุกลามเป็นวงกว้าง
นายกาวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ถูกกล่าวหาว่าให้ความสำคัญกับนโยบายสิ่งแวดล้อมมากกว่าการควบคุมเพลิงที่มีประสิทธิภาพ และการตัดสินใจรื้อเขื่อนแห่งหนึ่ง ทำให้แคลิฟอร์เนียมีน้ำไม่เพียงพอต่อการรับมือกับสถานการณ์ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีได้เรียกร้องในนายนิวซัมลาออก อ้างว่าเขาเลือกที่จะปกป้อง "ฝูงปลาที่ไร้ค่า" แทนที่จะปกป้องประชาชนภายในรัฐ ด้วยการปฏิเสธลงนามในร่างกฎหมายฉบับหนึ่งที่จะเปิดทางให้กระแสน้ำหลายล้านลิตรไหลเข้าสู่แคลิฟอร์เนีย
ขณะเดียวกันก็มีเสียงวิจารณ์นโยบายที่มุ่งเน้นความหลากหลาย ความเสมอภาค และการไม่แบ่งแยก หรือ DEI ทำให้ผู้ชายคนขาวถูกกีดกันจากการเป็นนักดับเพลิง และทำให้ลอส แองเจลิส มีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงไม่พอสำหรับการรับมือเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่นี้