ออกหมายจับตาวัย 75 วางดักไฟลวดหนามชอร์ตหนุ่มหัวขโมยดับ สารภาพแค้นถูกขโมยของในร้านมาตลอด

(18 มิ.ย.68) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า คดีพบศพนายจิรกิตติ์ หรือ ต้น (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี หนุ่มป่วยจิตเวช และชอบลักเล็กขโมยน้อยทั่วหมู่บ้าน ถูกไฟฟ้าชอร์ตร่างดำเกรียม บริเวณกลางแผ่นหลังและใบหน้า ถูกหามศพขึ้นรถกระบะไม่ทราบชนิดและยี่ห้อ โยนทิ้งริมถนนศรีมงคล ข้างกำแพงโรงเรียนปากพูน พื้นที่หมู่ 8 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ก่อนที่พระสงฆ์ออกบิณบาตร ไปพบศพเช้าวันที่ 12 มิ.ย.68

เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานสาเหตุเบื้องต้น คาดว่า ผู้เสียชีวิตซึ่งมีนิสัยชอบลักเล็กขโมยน้อย ออกจากบ้านกลางดึกแล้วพยายามมุดรั้วลวดหนาม เข้าไปลักของในบ้านชาวบ้านหลังใดหลังหนึ่งในหมู่บ้าน แล้วพลาดถูกกระแสไฟฟ้าที่เจ้าของบ้านวางดักขโมย ซอร์ตเสียชีวิตคาที่ หลังเกิดเหตุเจ้าของบ้าน กลัวความผิด จึงช่วยกันหามศพขึ้นรถกระบะนำศพโยนทิ้งริมถนน ซึ่งทางตำรวจอยู่ระหว่างเร่งคลี่คลายคดี หาตัวเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ

ล่าสุด เย็นวันนี้ พ.ต.อ.กิตติชัย ไกรนรา ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ ตำรวจเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน และแกะรอยกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆละแวกที่เกิดเหตุ กระทั้งทราบผู้ก่อเหตุคือนายผล (สงวนนามสกุล) อายุ 75 ปี เป็นเจ้าของร้านชำหน้าวัด ในพื้นที่หมู่ 8 ต.ปากพูน ซึ่งอยู่หมู่บ้านเดียวกัน 

พนักงานสอบสวน จึงรวบรวมพยายานหลักฐาน เสนอศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช อนุมัติออกหมายจับนายผล ในวันนี้แล้ว และต่อมานายผล หลังถูกออกหมายจับ เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ก่อนนำตัวสอบสวน 

นายผล รับสาภาพว่า ไม่ได้ตั้งใจ แต่เป็นการปล่อยกระแสไฟฟ้ามาตั้งแต่ช่วงประมาณเดือนเมษายน แต่ไม่เคย เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้หากใครโดนหรือจับลวดหนาม สะพานไฟในบ้านจะตัดกระแสไฟฟ้าทันที แต่ครั้งนี้เกิดข้อผิดพลาด ทำให้มีผู้เสียชีวิต ก่อนจะยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวออกในชั้นพนักงานสอบสวน โดย พ.ต.อ.กิตติชัย อนุมัติให้ประกันตัวออกไป

พ.ต.อ.กิตติชัย กล่าวว่า นายผล ให้การว่า ถูกผู้ตายลักขโมยของที่ร้านหลายครั้ง แต่ไม่เคยแจ้งความ ในคืนวันเกิดเหตุ เผลอปล่อยกระแสไฟฟ้าสายลวดหนามดักขโมยเอาไว้ กระทั้งเช้ามืดตื่นนอนพบนายจิรกิตติ์ ถูกไฟชอร์ตเสียชีวิตคารั้วลวดหนามข้างร้าน ด้วยความตกใจ กลัวความผิด จึงร่วมกับ น.ส.สุวรรณา (สงวนนามสกุล) ลูกสาว อายุ 31 ปี ยกศพนายจิรกิตติ์ ขึ้นท้ายรถกระบะ นำศพออกจากบ้านไปโยนทิ้งริมถนนข้างกำแพงโรงเรียนปากพูน ห่างร้าน 300 เมตร แล้วกลับบ้านตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และไม่ได้หนีไปไหน 

กระทั้งถูกศาลฯ ออกหมายจับ จึงเข้ามอบตัวและประกันตัว ซึ่งตำรวจดำเนินคดีไปตามพยานและหลักฐานในข้อหา "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และ ร่วมกันอำพรางซ่อนเร้นศพ" ส่วน น.ส.สุวรรณา ลูกสาว ที่ร่วมกับพ่อ ยกศพผู้ตายขึ้นท้ายกระบะไปทิ้ง ทางตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อเสนอศาลแขวงนครศรีธรรมราช ออกหมายจับในข้อหา "ร่วมอำพรางปิดบังซ่อนเร้นศพ" - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน