ตร. คุมตัวสอบพ่อเลี้ยงหื่นขืนใจลูกเลี้ยงนานนับปีจนมีลูก
ตร. คุมตัวสอบพ่อเลี้ยงหื่นขืนใจลูกเลี้ยงนานนับปีจนมีลูก

พี่สาวร้องน้องถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนตั้งแต่ ป.5 ยันอายุ 21 ปี มีลูก 4 ขวบ ล่าสุดน้องคนเล็ก 14 ปี กลายเป็นเหยื่อ แม่รู้ทุกอย่างแต่นิ่งเฉย
จากกรณีหญิงสาววัย 28 ปี ร้องทุกข์ต่อนางสาวชลิดา พะละมาตย์ หรือ ต้นอ้อ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง หลังน้องสาว 2 คน อายุ 21 ปี และ 14 ปี ถูกพ่อเลี้ยงล่วงละเมิดทางเพศ โดยน้องสาววัย 21 ปี ถูกกระทำตั้งแต่อายุ 11 ปี (ชั้น ป.5) จนตั้งครรภ์และมีลูกวัย 4 ขวบ ซึ่งเด็กเป็นลูกของพ่อเลี้ยง ล่าสุด น้องสาวคนเล็กวัย 14 ปี ถูกพ่อเลี้ยงพยายามล่วงละเมิด โดยใช้นิ้วสอดใส่อวัยวะเพศหลายครั้ง แต่ยังไม่ถึงขั้นมีเพศสัมพันธ์ เนื่องจากเด็กขัดขืน ช็อกกว่านั้น แม่ของผู้เสียหายรู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดมานาน แต่กลับนิ่งเฉยและไม่ดำเนินการใด ๆ
ล่าสุดวันที่ 3 มิถุนายน 2568 เวลาประมาณ 10.30 น. นางสาวชลิดา พะละมาตย์ ได้พาผู้เสียหายทั้ง 3 คน พร้อมเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จ.สมุทรสงคราม เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับพ่อเลี้ยงที่สถานีตำรวจภูธรลาดใหญ่ จ.สมุทรสงคราม เพื่อเอาผิดในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเด็ก
นางสาวแพรว (นามสมมติ) อายุ 28 ปี พี่สาวของผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เพิ่งทราบเรื่องเมื่อ 5 วันก่อน หลังกลับจากการไปเที่ยวทะเลกับครอบครัว โดยสังเกตเห็นพฤติกรรมไม่เหมาะสมของพ่อเลี้ยงที่มีต่อตนเอง เช่น การพูดจาเชิงลวนลามและแสดงท่าทีเหมือนจะจีบ ทั้งที่เป็นสามีของแม่ เธอเริ่มสงสัยในพฤติกรรมของพ่อเลี้ยงและตั้งคำถามว่าหลานชายวัย 4 ขวบ ซึ่งเป็นลูกของน้องสาววัย 21 ปี เป็นลูกของอดีตแฟนหนุ่มของน้องจริงหรือไม่ จึงตัดสินใจสอบถามพ่อเลี้ยงโดยตรง ซึ่งเขายอมรับว่าเด็กเป็นลูกของตน และอ้างว่าไม่เคยล่วงละเมิดน้องสาวคนอื่น แต่ยอมรับว่ามีพฤติกรรมลวนลามน้องสาวคนเล็ก
นางสาวแพรวเล่าต่อว่า หลังจากนั้นได้สอบถามแม่ ซึ่งแม่ยอมรับว่ารู้เรื่องที่พ่อเลี้ยงกระทำต่อน้องสาวมานาน แต่ไม่เคยดำเนินการใด ๆ โดยแม่เพียงข่มขู่ให้เด็กเลิกยุ่งกับพ่อเลี้ยง มิหนำซ้ำเมื่อน้องสาววัย 21 ปีตั้งครรภ์ แม่ก็ยังคงนิ่งเฉย และบอกให้เด็ก “เลิกยุ่ง” กับพ่อเลี้ยง โดยขู่ตัดขาดความสัมพันธ์แม่ลูก แต่เหตุการณ์ล่วงละเมิดก็ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง
นอกจากนี้ พ่อเลี้ยงยังพยายามติดต่อนางสาวแพรวผ่านโซเชียลมีเดียในเชิงชู้สาว ซึ่งเธอจำยอมคุยเพื่อล่อให้ได้หลักฐาน แม้จะนำหลักฐานไปให้แม่ดู แม่กลับบอกเพียงว่า “จะจัดการเอง” แต่สุดท้ายก็ไม่มีการแก้ไขใด ๆ โดยน้องสาววัย 14 ปี เปิดเผยว่า ถูกพ่อเลี้ยงพยายามลวนลามตั้งแต่อายุ 11 ปี และถูกข่มขู่ให้ยอมจำนนโดยกลัวว่าเรื่องจะถึงหูแม่
นางสาวแพรวตัดสินใจพาน้องสาวทั้งสองไปอยู่ที่กรุงเทพฯ เพื่อหนีจากพ่อเลี้ยง โดยในตอนแรกแม่ไม่ยินยอมให้พาน้องสาวคนเล็กไปด้วย แต่เมื่อน้องสาวคนเล็กยืนยันอยากไปอยู่กับพี่สาวและเปิดเผยว่าเธอก็ถูกพ่อเลี้ยงลวนลาม แม่จึงเปลี่ยนใจและบอกว่าจะย้ายไปอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพฯ พร้อมเลิกกับพ่อเลี้ยง อย่างไรก็ตาม วันรุ่งขึ้นแม่กลับเปลี่ยนใจ อ้างว่ามีหนี้สินที่ต้องใช้ร่วมกับพ่อเลี้ยงและยังต้องพึ่งพาการเงินจากเขา
นางสาวแพรวเผยอีกว่า เธอตัดสินใจย้ายออกจากบ้านตั้งแต่แรกเพราะทนพฤติกรรมลวนลามของพ่อเลี้ยงไม่ไหว เช่น การเข้ามากอดหรือพยายามหอมขณะนอนหลับ ซึ่งเมื่อแจ้งแม่ แม่เพียงบอกให้ “เรียกเขาว่าพ่อ” เพื่อความปลอดภัย แต่เหตุการณ์ก็ไม่ดีขึ้น เธอตั้งคำถามถึงแม่ว่า “เคยเลือกตนและน้องสาวบ้างหรือไม่” เพราะทุกครั้งแม่มักเลือกปกป้องพ่อเลี้ยงมากกว่าลูก และยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
พ่อเลี้ยงกับแม่เด็ก
ต่อมาเมื่อเวลา 17.30 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายเดี่ยว (นามสมมติ) พ่อเลี้ยง พร้อมรถกระบะมาที่ สภ.ลาดใหญ่ เมื่อถูกสอบถามถึงข้อกล่าวหา นายเดี่ยวปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล โดยระบุเพียงว่า “ขอให้ข้อมูลกับตำรวจก่อน” ก่อนถูกนำตัวเข้าห้องขัง ส่วนแม่เด็ก หลังการสอบปากคำเบื้องต้น พบว่าหลักฐานและคำให้การยังไม่เพียงพอต่อการดำเนินคดี จึงได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว
ทีมข่าวลงพื้นที่บ้านพักของครอบครัวในวันเดียวกัน แต่ไม่พบแม่เด็ก คาดว่าเดินทางกลับบ้านเกิดที่จังหวัดนครราชสีมา ชาวบ้านในพื้นที่ยืนยันว่าไม่พบแม่เด็กกลับมาที่บ้านหลังเกิดเหตุ
ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาให้ถึงที่สุด