"ท่าขี้เหล็ก" หาซื้อโซล่าเซลล์ทดแทน หลังกระแสไฟฟ้าไม่เพียงพอ

(10 ก.พ.68) หลังจากทางการไทย สั่งงดขายกระแสไฟฟ้า และน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับประเทศสหภาพเมียนมา ครบ 5 วัน สถานการณ์การขาดแคลนพลังงานในเมืองท่าขี้เหล็ก ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีข้อมูลรายงานว่าผู้ใช้กระแสไฟฟ้าในเมืองท่าขี้เหล็กได้ ออกมาตรการแบ่งปันการใช้ไฟฟ้า โดยมีตารางการจ่ายไฟให้หมู่บ้านต่างๆ แบบเวียนการใช้ตามห้วงเวลา เช่น หมู่บ้านเอ ใช้ไฟตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึงเที่ยงวัน หมู่บ้าน B ใช้ไฟ ฟ้าตั้งแต่เที่ยงวันถึง 6 โมงเย็น หมู่บ้าน cใช้ไฟฟ้าตั้งแต่ 18:00 น ถึงเที่ยงคืน เวียนสลับกันใช้แบบนี้ เพื่อให้พอเพียงกับจากกระแสไฟฟ้าลาว 13 เมกะวัตต์ จากปริมาณการใช้เดิมประมาณ 30 เมกะวัตต์ ทำให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชน ซึ่งต้องการใช้ กับอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านทั่วไป เช่น โทรทัศน์ ไปส่องสว่างในบ้าน และอุปกรณ์ต่างๆ จึงเริ่มต้องหาอุปกรณ์มาทดแทน 

ขณะเดียวกันประชาชนเมืองท่าขี้เหล็กที่มีเครื่องปั่นไฟที่หาซื้อมากันได้ และที่เคยมีไว้อยู่แล้ว ตั้งแต่ขนาดเล็กและขนาดใหญ่กับไม่สามารถใช้การได้ เพราะต้องใช้น้ำมันเป็นตัวเดินเครื่องซึ่งน้ำมันที่มีก็จำหน่ายจำนวนจำกัด ทำให้ประชาได้เริ่มหาอุปกรณ์มาทดแทน เช่นพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์หรือโซล่าเซลล์ ซึ่งมีจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าตามเขตชายแดนฝั่งไทย มีประชาชนเมืองท่าขี้เหล็กเริ่มมาทยอยซื้อไปและก็เริ่มทยอยหมด อุปกรณ์บางชิ้นที่ใช้ติดตั้งโซล่าเซลล์ขาดตลาด ต้องออกไปหาซื้อกันในเมืองเชียงราย ซึ่งก็มีบางส่วนได้สั่งโซล่าเซลล์ของจีนเข้ามาใช้ โดยผ่านมาทางชายแดนเมียนมาที่ติดกับจีน ซึ่งให้พอใช้ในครัวเรือนไปก่อน

ขณะเดียวกันได้มีการติดต่อสอบถามไปยังเมืองเชียงตุงในเรื่องไฟฟ้าและน้ำมันทราบว่า ก่อนหน้าทางเมืองเชียงตุงได้ใช้ไฟฟ้าจากเมืองเชียงตอง ทางการไฟฟ้าเมียนมาเป็นคนผลิต 

ส่วนที่หน้าด่านพรมแดนมิตรภาพชายแดนอำเภอแม่สายท่าขี้เหล็ก แห่งที่ 1 ยังมีการข้ามไปมาของชาวเมียนมา เพื่อหาซื้อเครื่องอุปโภคบริโภค จากฝั่งไทยตลอดทั้งวัน และจะมีรถยนต์ส่วนบุคคล-มอเตอร์ไซค์ ของเมียนมาได้ทยอยข้ามมาเติมน้ำมันในปั๊มน้ำมันอำเภอแม่สาย แต่ยังไม่มีรายงานว่าจะมีการเติมน้ำมันใส่แกลลอนข้ามกลับไปยังฝั่งท่าขี้เหล็ก เนื่องจากมีการตรวจเข้มจากเจ้าหน้าที่ด่านพรมแดน ส่วนใหญ่จะเป็นรถยนต์เติมแล้ว นำไปดูดออกนำไปขายต่อและวิ่งกลับมาเติมใหม่ ซึ่งส่วนเมืองและหมู่บ้านต่างๆน้ำมันเริ่มไม่มีใช้ หากมีใช้ก็จะเก็บไว้ใช้เองไม่จำหน่าย มีรายงานว่า รถบนถนนสายหลักในเมืองท่าขี้เหล็กเริ่มออกมาวิ่งบนถนนน้อย เนื่องจากประหยัดน้ำมัน น้ำมันไม่มี และทางการเมียนมาปราบปรามรถเถื่อนที่ไม่มีทะเบียน 

ขณะเดียวกันรถบรรทุกน้ำมันบริเวณลานจอดรถพักริมทางเขตพื้นที่ตำบลโป่งงาม ยังมีรถบรรทุกน้ำมันจอดเต็มลานจอดรถ และยังมีที่อำเภอแม่จัน ที่มีรถบรรทุกน้ำมันจอดรอคำสั่งและทิศทางว่า จะให้เปลี่ยนแปลงอย่างไร แต่ทุกคนยังต้องรอ และเริ่มความเป็นอยู่ลำบากน้ำที่ใช้อาบ-ใช้ เริ่มส่งกลิ่นเหม็น ไม่สามารถนำมาอาบและชำระล้างได้ จึงอย่างขอให้หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาช่วยดูแลเรื่องน้ำ