ตำรวจไซเบอร์รวบ 2 แก๊งคอลฯปอยเปต อ้างเป็นผู้กำกับ โทรขู่เหยื่อโอนเงิน

ตำรวจไซเบอร์รวบ 2 แก๊งคอลฯปอยเปต อ้างเป็นผู้กำกับ โทรขู่เหยื่อโอนเงิน

122305 ก.ค. 68 16:59   |     Tum1

ตำรวจไซเบอร์รวบ 2 ผตห.แก๊งคอลฯปอยเปต ตั้งฐานบนกาสิโน อ้างเป็นผู้กำกับ โทรขู่เหยื่อโอนเงิน เผยเคยหลอกเหยื่อได้สูงสุดถึง 12 ล้านบาท

วันที่ 5 ก.ค.68 เวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณชั้น 1 บก.สอท.2 (เมืองทองธานี) หรือตำรวจไซเบอร์ นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าว "ตำรวจไซเบอร์รวบ 2 แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปอยเปต" สืบเนื่องจาก เมื่อช่วงวันที่ 10 ก.ค.66 ถึง 16 ต.ค.66 ตำรวจไซเบอร์ ได้สืบสวนคดี Hybrid Scam ที่รับแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ thaipoliceonline.go.th โดยเริ่มต้นจากมีผู้เสียหายรายหนึ่งถูกติดต่อจากบุคคลใช้ภาพโปรไฟล์หน้าตาดีผ่านโซเชียลฯ จากนั้น ได้ชวนผู้เสียหายพูดคุยกันจนเกิดความสนิทสนมและชอบพอกัน ต่อมาจึงหลอกให้โอนเงินโดยอ้างว่า นำไปลงทุนคริปโตเคอเรนซี่ ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไป จำนวน 147 ครั้ง ไปยังบัญชีม้าจำนวน 79 บัญชี เกิดความเสียหายรวมเป็นเงินจำนวน 308,204,326.5 บาท 


ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สืบสวนสอบสวนจนสามารถรวบรวมพยานหลักฐาน ออกหมายจับผู้ต้องหาคดีดังกล่าว จำนวน 76 ราย สามารถจับกุมตัวได้แล้ว จำนวน 46 ราย จากกรณีดังกล่าว มีประเด็นที่น่าสนใจ คือ เจ้าหน้าที่พบพยานหลักฐานว่า ผู้ต้องหาตามหมายจับกลุ่มดังกล่าว เป็นผู้ร่วมขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นองค์กรขนาดใหญ่ มีผู้ร่วมขบวนการกว่า 100 คน โดยมีชาวจีนเป็นหัวหน้า มีฐานที่ตั้งอยู่ที่ ภูลิกาสิโน (Pu Li Casino) ตั้งอยู่ในเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา

ซึ่งขบวนการดังกล่าว ทำหน้าที่หลอกลวงคนไทยหลากหลายรูปแบบ อาทิ หลอกลวงเป็นหน่วยงานรัฐแล้วข่มขู่ให้โอนเงินเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่าเงินของเหยื่อไม่เกี่ยวข้องกับคดีอาญา , หลอกให้ผู้สนใจลงทุนโอนเงินลงทุนรูปแบบต่างๆ และหลอกลวงให้รักแล้วชักชวนลงทุน (Hybrid Scam) เป็นต้น 



เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติต่อศาลออกหมายจับผู้ทำหน้าที่ต่างๆ ในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลุ่มดังกล่าวได้แล้ว รวมจำนวน 44 ราย โดยแบ่งเป็น

  • ผู้ทำหน้าที่ สาย 1 (ติดต่อผู้เสียหาย หลอกลวงตามบทที่ได้รับ) จำนวน 20 ราย (จับกุมได้แล้ว จำนวน 6 ราย)
  • ผู้ทำหน้าที่ สาย 2 (สนทนาตอกย้ำให้ผู้เสียหลงเชื่อแบบสนิทใจต่อจากสาย 1 เช่น เป็นร้อยเวรหรือ จนท.ต่างๆ) จำนวน 11 ราย (จับกุมได้แล้ว จำนวน 2 ราย)
  • ผู้ทำหน้าที่ สาย 3 (ปิดเกม สั่งผู้เสียหายให้โอนเงิน โดยอ้างตัวเป็นหัวหน้า เช่น ผู้กำกับสถานีตำรวจของร้อยเวรในสาย 2) จำนวน 7 ราย (จับกุมได้แล้ว จำนวน 2 ราย)
  • ผู้ที่ทำหน้าที่สนับสนุนด้านอื่นๆ (การทำหนังสือราชการปลอม ทำหมายปลอม จัดหาซิมผี จัดหาบัญชีม้า) จำนวน 6 ราย (จับกุมแล้ว 2 ราย)



โดยล่าสุด พ.ต.ต.ชัยโชติ ศรีวรขาน และ พ.ต.ท.รุ่งเรือง แสนโคตร สว.กก.2 บก.สอท.1 ได้ร่วมนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดเข้าจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญกลุ่มดังกล่าว ดังนี้ 

  1. นายสมศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี (ทำหน้าที่ หัวหน้าสาย 2) ควบคุมตัวได้ที่ ซอยเชิงทะเล 14 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 3 ก.ค.68
  2. นายวราเมธ (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี (ทำหน้าที่หัวหน้าสาย 3 อ้างตัวเป็นผู้กำกับสถานีตำรวจ) ควบคุมตัวได้ในพื้นที่ ต.ต้นเปา อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เมื่อช่วงสายของวันที่ 3 ก.ค.68



เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีในข้อหา

  • ร่วมกันอั้งยี่
  • ร่วมกันเป็นซ่องโจร
  • ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
  • ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น
  • โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จฯ 
  • สมคบกันโดยตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินฯ 
  • ร่วมกันฟอกเงิน


จากการสอบถาม นายวราเมธ ผู้ต้องหาทำหน้าที่สาย 3 เบื้องต้นยอมเปิดเผยข้อมูลว่า ได้ค่าตอบแทนประมาณ 25,000 บาท ต่อเดือน และค่าคอมมิชชั่น 3.5 เปอร์เซ็นต์ แต่หากไม่เอาเงินเดือน จะได้ค่าคอมมิชชั่น 6.5 เปอร์เซ็นต์ ช่วงหลังตนเองจึงรับแค่ค่าคอมมิชชั่น โดยเริ่มต้นจากเคยข้ามแดนอย่างถูกกฎหมาย ไปทำงานเป็นแอดมินของแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ชื่อดังในประเทศกัมพูชามาก่อน หนึ่งปีต่อมาได้ถูกชักชวนผ่านเฟซบุ๊กให้ไปทำงานเป็นแอดมินขายของอีกครั้ง โดยถูกนัดหมายให้ไปพบที่ ภูลิกาสิโน

เมื่อไปถึงกลับโดนยึดอุปกรณ์สื่อสาร และเอกสารประจำตัว แล้วโดนบังคับให้ทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์สายที่ 1 แต่ตนพูดไม่ได้ จึงได้ทำงานเป็นสายที่ 2 โดยแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อรับแจ้งความ ภายหลังจึงได้ทำงานเป็นสาย 3 คอยแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูง เพื่อพูดจาข่มขู่หลอกลวงให้เหยื่อโอนเงิน โดยตนเคยหลอกลวงเหยื่อให้โอนเงินได้มากสุดถึง 12 ล้านบาท ซึ่งขณะนั้นได้ค่าคอมตอบแทน 3.5 เปอร์เซ็นต์



อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการเร่งสืบสวนขยายผล รวมทั้งติดตามจับกุมผู้ต้องหาในขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าวที่ยังหลบหนี มาดำเนินคดีตามกฎหมายเพิ่มเติมต่อไป - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat