ล้อมจับคนร้าย ย่องลักทรัพย์ในวัด อ้างหาเงินซื้อนมให้ลูก
ล้อมจับคนร้าย ย่องลักทรัพย์ในวัด อ้างหาเงินซื้อนมให้ลูก

ตร.ปากเกร็ด ล้อมจับมารศาสนา ย่องลักทรัพย์ในวัด อ้างหาเงินซื้อนมให้ลูก
วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ได้รับแจ้งคนร้าย เข้ามาลักทรัพย์ภายในสำนักงานวัดปรมัยยิกาวาส ต.เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อเวลา 01.00 น. จึงได้นำกำลัง กว่า 10 นาย พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 และชาวบ้านล้อมจับคนร้าย ที่อยู่ภายในสำนักงานฯ ไว้ได้ ขณะกำลังรื้อค้นทรัพย์สิน ทราบชื่อต่อมาคือ นายวิชญะ (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี จึงได้นำตัวส่ง สภ.ปากเกร็ด
จากการตรวจสอบ พบว่า ก่อนหน้านี้นายวิชญะ เคยก่อเหตุมาแล้ว 1 ครั้ง โดยได้ทรัพย์สินเป็นเงินจำนวน 200 บาท น้ำหวานเข้มข้น (เฮลบลูบอย) จำนวน 1 ขวด โดยในครั้งนี้ นายวิชญะ ได้ขโมยพระอุปคุต (พระบูชา) และทรัพย์สินหลายรายการ ใส่ไว้ในถุง สีส้ม ที่นำมาด้วย เตรียมหลบหนี แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวไว้ได้ เบื้องต้นแจ้งข้อหา "บุกรุกเคหสถานในยามวิกาล" ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จะนำตัวนายนายวิชญะ ส่งศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
จากการสอบถาม นายสราวุธ ศรีชื่นชม อายุ 34 ปี เจ้าหน้าที่จัดการทั่วไปวัดปรมัยยิกาวาส กล่าวว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ตนได้ดูกล้องวงจรปิดภายในโทรศัพท์มือถือ ได้เห็นภาพคนร้ายกำลังเข้ามาในสำนักงานฯ รื้อค้นทรัพย์สิน จึงได้แจ้งไปยังผู้ใหญ่บ้าน เพื่อให้ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่ก่อนหน้านี้ เคยเข้ามาขโมยทรัพย์สินภายในสำนักงานแล้ว 1 ครั้ง
หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง คนร้ายยังอยู่ภายในสำนักงาน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตะโกนเรียกให้คนร้ายเปิดประตู แต่คนร้ายไม่ยอมออกมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ เพื่อนำกุญแจมาไขประตู หลังจากเข้าไปภายในสำนักงาน พบว่า คนร้ายหลบซ่อนตัวอยู่บนตู้โดยใช้ฟิวเจอร์บอร์ดอำพรางตัว ทางเจ้าหน้าที่ค้นหาจนพบและจับกุมตัวไว้ได้ ระหว่างจับกุม คนร้ายได้มีการขัดขืน จนทำให้เกิดบาดแผล บริเวณร่างกายและได้ร่ำไห้ อ้างว่า จะนำเงินที่ได้ไปซื้อนมให้ลูก
น.ส.สุพัตรา เกตุเจริญ อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.เกาะเกร็ด เล่าว่า คนร้ายรายนี้เป็นคนพื้นที่อาศัยอยู่ ต.เกาะเกร็ด เคยลักเล็กขโมยน้อย และอยู่ในโครงการบำบัดยาเสพติด หลังจากถูกตำรวจจับกุม คนร้ายยอมรับสารภาพว่า ก่อเหตุจริงและอ้างว่า ไม่มีเงิน จะนำเงินที่ได้ไปเลี้ยงดูครอบครัว ตนอยากฝากถึงผู้ที่คิดจะก่อเหตุว่า "อย่ามาทำแบบนี้เลย บาปกรรม ให้ไปทำมาหากินสุจริตจะดีกว่า" - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
