ผู้ว่าฯ กทม. ลุยเปิดทางช่วยเหลือผู้ติดใต้อาคาร สตง. ทั้งรื้อซากอาคาร และค้นหาผู้สูญหาย

(2 เม.ย.68) จากกรณี เกิดเหตุอาคารสตง.แห่งใหม่ถล่มลงมา เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา เข้าสู่วันที่ 5 ของการค้นหา ล่าสุด พบผู้เสียชีวิตที่นำออกจากอาคารแล้ว 15 คน อันนี้ถ้าเกิดอุบัติเหตุยังคง 9 คนและ ผู้สูญหาย 72 คน 

โดยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า หลังเกิดเหตุการณ์อาคารสตง.ถล่ม จนเข้าสู่วันที่ 5 ล่าสุด พบผู้เสียชีวิตติดอยู่ในอาคารเพิ่มอีก 14 คน โดยกระจายอยู่ในทุกๆ โซน บางจุดได้กลิ่นศพ แต่อุปสรรคคือการเข้าไปนำร่างของผู้เสียชีวิตออกมาไม่ได้ ตอนนี้จึงเร่งดำเนินการใช้ยุทธวิธี การเปิดพื้นที่ให้ได้มากที่สุดโดยมีการ ใช้รถแบกโฮ หนูตัดด้านซ้ายและด้านขวา เพื่อให้เข้าถึงตัวลิฟต์ของทั้งสองข้างมากที่สุด เพิ่งมีลิฟต์อยู่ 2 ตัว และพยายามจะเปิดพื้นที่ด้านหลังของอาคารให้ได้มากที่สุดแต่ เข้าไปได้ไม่เยอะ

ขอตรวจอาคารที่พังลงมามีชิ้นส่วนค่อนข้าง เยอะ มีความหนาค่อนข้างมาก ต้องใช้การตัดเหล็กแล้วดึงแผ่นปูนออกมา ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่เน้น 2 ส่วนหลัก การช่วยชีวิตและการรื้ออาคารซึ่งทั้งสองอย่างนี้ทำไปควบคู่กัน โดยเป็นการรื้ออาคาร โดยใช้เครน แบกโฮ เปิดทางและเมื่อพบเบาะแส สิ่งของต้องสงสัยก็จะใช้เครื่องสแกนความร้อนโดยใช้สุนัข K9 เข้าไปทดสอบ เพื่อทำการช่วย นำร่างผู้สูญหายออกตามพื้นที่

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เน้นย้ำว่า ประเด็นเรื่องการดราม่าเมื่อวานนี้ของกู้ภัยคนไทย กรณี 72 ชั่วโมง ต้องนำตึกออกจากตัวคนนั้น ไม่เคยได้ยินทฤษฎีนี้มาก่อน ไม่ใช่มาตรฐานสากลอาจเป็นการคาดการณ์ซึ่งหากดูจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ ก็จะพบว่ามีผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์อาคารถล่ม บางคนอยู่รอดถึง 7 วัน และล่าสุดได้รับการรายงานว่ามีผู้รอดชีวิตกรณีอาคารถล่มที่ประเทศเมียนมาร์วันนี้ ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นพร้อมกันกับบ้านเราก็ทำให้มีความหวังคาดว่ายังคงมีผู้รอดชีวิตอยู่ในอาคาร

และจากการพูดคุยกับทีมกู้ภัยนานาชาติ ก็ยอมรับว่าเคสนี้เป็นเคสที่ยากและมีความซับซ้อนที่สุดที่เคยเกิดขึ้นเพราะไม่เคยมีอาคารสูงขนาดนี้ทรุดลงมาก่อน และมีผู้ที่ติดอยู่ภายในอาคารจำนวนมาก ทีมต่างชาติจะแนะนำตลอดว่าขอแนะนำให้ทำแบบนี้แต่สุดท้ายคนไทยจะเป็นคนตัดสินใจ ต่างชาติที่มาสู้มาก เดินไม่หยุด สู้ไม่แพ้คนไทยซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าประทับใจ