‘ลิซ่า’ ตอกกลับ ‘บรู๊ค’ เพื่อไทยก็ทำแบบเดียวกันเป๊ะ!
‘ลิซ่า’ ตอกกลับ ‘บรู๊ค’ เพื่อไทยก็ทำแบบเดียวกันเป๊ะ!

‘ลิซ่า ภคมน’ ตอกกลับ ‘บรู๊ค ดนุพร’ หลังวิจารณ์ข้อเรียกร้องยุบสภาเป็นพิษต่อระบบประชาธิปไตย ชี้ ‘เพื่อไทย’ ตอนเป็นฝ่ายค้านก็ทำแบบเดียวกันเป๊ะ และพิษร้ายคือนักการเมืองตระบัดสัตย์
(15 ก.พ. 68) ยังคงมีวิวาทะกันไม่จบ หลังนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และนายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคประชาชน ออกมาระบุว่าเหตุสภาล่ม 2 วันติด สะท้อนว่านายกรัฐมนตรีไม่สามารถคุมเสียงในสภา ให้พรรคร่วมรัฐบาลมาเข้าประชุมได้ และเรียกร้องว่านายกรัฐมนตรีควรที่จะประกาศยุบสภา ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากฟากฝั่งพรรคเพื่อไทย รวมถึง นายดนุพร ปุณณกันต์ ที่ออกมาบอกว่าการเรียกร้องให้ยุบสภานั้นเป็นทัศนคติที่เป็นพิษต่อระบบประชาธิปไตย และพรรคที่ไม่ศรัทธาในระบอบประชาธิปไตย จะเลือกใช้วิธีการล้มกระดาน
ล่าสุด น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ได้ออกมาโต้ตอบนายดนุพร โดยระบุว่า
“ในเมื่อรัฐบาลไร้ความสามารถ การเรียกร้องยุบสภาฯเป็นไปตามครรลองประชาธิปไตย
คุณดนุพร บอกว่าไม่มีเหตุผลใดต้องยุบสภาและการเรียกร้องยุบสภาเป็นความคิดที่เป็นพิษต่อระบอบประชาธิปไตย
“คุณดนุพรพูดเหมือนเพิ่งตื่น หลับไป2วันไม่รู้เลยหรือคะว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง”
.
การประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 ว่าด้วยการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือสสร.ล่มไปต่อไม่ได้เพราะตรวจสอบองค์ประชุมแล้ว มี สส.และ สว.แสดงตนในห้องประชมเพียง 172 เสียง น้อยกว่าวันที่ 13 ก.พ.2568 วันแรกที่มีนับองค์ประชุมและมี204 เสียงเท่ากับสภาฯไปต่อไม่ได้
เพราะสส.พรรคร่วมรัฐบาลไม่แสดงตน
.
ดังนั้นเหตุการณ์สภาล่มแสดงถึงนายกรัฐมนตรีไร้ความสามารถในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลเหตุผลนี้มากพอที่หัวหน้าพรรคประชาชนจะเรียกร้องให้ยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนและอย่าหาว่าสอนแต่จะบอกให้ฟังเผื่อโฆษกพรรคเพื่อไทยจะจำและนำไปพูดได้ไม่อายใครเขา
.
ข้อแรกการยุบสภาฯเป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย โลกประชาธิปไตยเขาก็ทำกันเมื่อนายกรัฐมนตรี คุมเสียงพรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้ จนเกิดความเสียหายต่อประชาชนและประเทศ
.
2. พรรคเพื่อไทยเองก็เคยเรียกร้องให้ยุบสภาฯในสมัยรัฐบาลประยุทธ์ ซึ่งการกระทำที่เรียกร้องในขณะนั้นมาวันนี้คุณทำแบบเดียวกันเป๊ะทุกเรื่องเลยและสุดท้าย พิษต่อระบอบประชาธิปไตยคือการที่นักการเมืองพลิกลิ้นตระบัดสัตย์ต่างหากที่เป็นพิษร้ายแรงต่อระบอบประชาธิปไตยเพราะทำให้ประชาชนเสียศรัทธาและไม่ไว้วางใจกับตัวแทนที่เขาเลือกเข้าไป”