"แม็คโดนัล - เคเอฟซี" ร่วมโครงการดิจิทัลฯ
"แม็คโดนัล - เคเอฟซี" ร่วมโครงการดิจิทัลฯ
"แม็คโดนัล - เคเอฟซี" ร่วมโครงการดิจิทัลฯ ถือเป็นตัวกลางซื้อวัตถุดิบมาขายทำให้กระจายรายได้
(28เม.ย.67) เพจเฟซบุ๊ก "พรรคเพื่อไทย" ระบุว่า หลังจากที่ประชุม ครม.มีมติรับหลักการโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่าน Digital wallet เมื่อ 23 เมษายน 67 และต่อมามีการนำเสนอข่าวว่าผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ส่งหนังสือถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้มีการทบทวนหลักเกณฑ์โครงการดิจิทัลวอลเล็ต
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอวันนี้ ยืนยัน ข้อเสนอของ ธปท.ที่ผ่านมามีการรับฟัง และนำมาปรับ มีการคุยกับแบงก์ชาติต่อเนื่อง ซึ่งแบงก์ชาติอยู่ในคณะกรรมการดิจิทัล คณะกรรมการมีการตัดสินใจในรูปแบบที่เหมาะสม แบงก์ชาติได้แสดงความเห็นหลายครั้ง และที่ประชุมก็รับทราบ มีสิ่งที่เราเห็นไม่ตรงกัน ที่ผ่านมาแบงก์ชาติก็แนะนำให้แจกกลุ่มเปราะบาง เราตัดคนออกไปบางส่วนแล้ว แต่จะให้ตัดเหลือแค่กลุ่มเปราะบาง 15 ล้านคน เราคิดว่า ยังไม่ตอบโจทย์
ในคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต ทุกคนมีความสำคัญเท่ากันหมด ทุกคนคือ 1 เสียงไม่มีใครสำคัญกว่าใคร ผู้ว่าแบงก์ชาติไม่ได้สำคัญกว่าเลขาธิการสภาพัฒน์ ไม่ได้สำคัญกว่าปลัดกระทรวงพาณิชย์ ทุกคนเท่ากันในคณะกรรมการ และความเห็นนี้ในเอกสารที่ออกมา มีการแจ้งความเห็นประกอบในที่ประชุม ครม.แล้ว และ ครม.รับทราบความเห็นและมีมติ ครม.ออกมาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
1.การช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มที่แบงก์ชาติเสนอให้ช่วยเฉพาะคนเปราะบาง 15 ล้านคนเท่านั้น : แนวคิดนี้เป็นการเยียวยา และเรื่องนี้คุยกันมา 7-8 เดือนแล้วนับตั้งแต่มีคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งข้อเสนอนั้น มีวัตถุประสงค์คนละแบบ ดิจิทัล วอลเล็ต มีวัตุประสงค์กระตุ้นเศรษฐกิจ วิธีการและวิธีทำ เรามีการแบ่งคนออก 5 กลุ่ม จนสุด - รวยสุด (1.จนสุด 2.เกือบจน ,3.กลางๆ 4.เกือบรวย ) 4 กลุ่มนี้มีแนวโน้มการใช้จ่ายสูง จึงเลือกเฉพาะ 4 กลุ่มนี้ ซึ่งหน่วยงานที่มีน้ำหนักสำคัญในการตัดกลุ่มคนรวยสุดของกลุ่มออก คือ แบงก์ชาติ และเราดำเนินการตามข้อเสนอแล้ว แต่ข้อเสนอให้จำกัดเฉพาะ 15 ล้านคน ตามข้อเสนอจึงไม่มีความจำเป็น
2. การบริโภคที่ดี ต้องมาพร้อมกับการผลิตที่ดี : การที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า ขณะนี้การบริโภคในประเทศในขณะนี้เริ่มฟื้นตัว และขยายตัวได้ดีแล้ว ไม่จำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ มองว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจจะมองเพียงการบริโภคอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมองต่อไปถึงการลงทุน แต่ปัจจุบันการผลิตไม่โต การลงทุนของไทยกำลังมีปัญหา ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม(MPI) ของไทยติดลบ 16 เดือนต่อเนื่อง ถ้าติดลบอีก 1 เดือนเดียวถือว่าจะติดลบนานเป็นประวัติศาสตร์ในประเทศไทยแล้ว สะท้อนให้เห็นถึงการผลิตภาคเอกชนที่มีปัญหา ซึ่งอันตรายมาก เนื่องจากกำลังซื้อในปัจจุบันไม่ได้สะท้อนกำลังซื้อที่มีอยู่จริง
กระทรวงการคลังได้มีการประเมินประสิทธิภาพของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเพื่อให้เห็นภาพใกล้เคียงที่สุดเท่าที่ข้อมูลจะพึงมี การจะใช้ตัวประมาณการเศรษฐกิจแบบเดิม ๆ ก็อาจจะไม่สามารถอ้างอิงได้ โดยพบว่า โครงการจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจ (จีดีพี) ได้ราว 1.2 - 1.8% ในช่วง 1 - 2 ปีแรกหลังเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ
ส่วนการให้สิทธิ์ ร้านค้าสะดวกซื้อ (ทุกแบรนด์) แม็คโดนัล เคเอฟซี เข้าร่วมโครงการได้ กระแสสังคมมองว่าเป็นการเอื้อเจ้าสัวหรือ กลุ่มทุนใหญ่นั้น ต้องมองว่า วัตถุดิบที่ร้านสะดวกซื้อนำมาขาย ไม่ใช่สิ่งที่เขาผลิตเองทั้งหมด เขาก็เป็นตัวกลางซื้อวัตถุดิบมาขาย เช่น อาหารแช่แข็ง ข้าวแช่แข็ง เงินส่วนนี้ก็ลงไปที่ชาวนาด้วย เกิดการผลผลิตเพิ่มขึ้น
“ร้านสะดวกซื้อเป็นเพียงตัวกลางในการส่งผ่านเม็ดเงินลงไปสู่ระบบเศรษฐกิจ ไม่ได้หยุดเพียงแค่ร้านสะดวกซื้อ และเขาต้องนำเงินไปซื้อวัตถุดิบอื่นด้วย”รัฐบาลยังยืนยันว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะยังเดินหน้าตามเงื่อนไขและวงเงินดำเนินการที่ 5 แสนล้านบาทตามเดิม และเรื่องนี้ผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปไกลแล้ว
ประชาชนที่ผ่านคุณสมบัติตามเงื่อนไขของโครงการก็ถือว่าได้เงิน โดยทุกคนไม่จำเป็นต้องมีบัญชีธนาคาร เพราะจะดำเนินการผ่านวอลเล็ตกลาง ซึ่งจะมีระบบรองรับสำหรับทุกคนที่เข้าไม่ถึงเทคโนโลยี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "เรืองไกร"ร้องป.ป.ช. สอบ ครม. 5 ข้อสงสัยโครงการเงินหมื่นดิจิทัลฯ
- ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ฉลุย ครม.ไฟเขียวหลักการ
- เคาะแล้ว “ดิจิทัลวอลเล็ต” 5 แสนล้าน ใช้งบ 67-68 ไม่ต้องกู้
- ข่าวดีคนรอ “ดิจิทัลวอลเล็ต” ปลายปีนี้ได้ใช้แน่นอน!