หึงโหดบุกจ่อยิงอดีตภรรยาดับคาบ้านพัก ก่อนกลับมายิงตัวตายตามที่บ้านอีกหลัง
หึงโหดบุกจ่อยิงอดีตภรรยาดับคาบ้านพัก ก่อนกลับมายิงตัวตายตามที่บ้านอีกหลัง

ชายวัย 44 หึงโหด บุกจ่อยิงกลางหน้าผากอดีตภรรยาดับคาบ้านพัก ก่อนกลับมายิงตัวตายตามที่บ้านอีกหลัง
เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. วันที่ 24 เม.ย.68 ที่ จ.อุทัยธานี ร.ต.อ.แมน โพธิ์อยู่ ร้อยเวร สภ.ทัพทัน รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต ที่บ้านพักบ้านเลขที่ XX/2 หมู่ 1 ต.ทุ่งนาไทย อ.ทัพทัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงลงตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พบบ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกสูง มีชาวบ้าน เข้ามายืนมุงดูเหตุการณ์กันจำนวนมาก
ตรวจสอบที่ใต้ถุนบ้าน บริเวณเปล มีผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ทราบชื่อคือ น.ส.นงลักษณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่บริเวณหน้าผาก 1 นัด มีเลือดไหลนองอยู่ที่พื้น เสียชีวิตในสภาพนอนหงายอยู่ในเปล
จากการสอบถาม นางมาลัย (สงวนนามสกุล) อายุ 66 ปี แม่ของหญิงผู้เสียชีวิต เล่าว่า คนที่ก่อเหตุเป็นอดีตลูกเขย คือ นายมนต์ชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี ซึ่งได้เลิกรากับลูกสาวตนไปได้ประมาณ 1 ปีแล้ว โดยมักมีนิสัยอารมณ์รุนแรง และชอบหึงหวงอย่างมาก ก่อนหน้านี้ลูกสาวของตนทำงานเป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข ตำแหน่งช่วยเหลือคนไข้ อยู่ที่ รพ.สต.ทุ่งนาไทย แต่ก็ต้องลาออกจากตำแหน่ง มาเมื่อวันที่ 3 เม.ย.68 ที่ผ่านมา เพราะทางนายมนต์ชัย มักไปตามราวีจากการหึงหวงคนในที่ทำงานของลูกสาวไม่เลิก
เมื่อวานนี้ นายมนต์ชัย ก็ยังได้ขู่ที่จะฆ่าตนและลูกสาวอยู่ ใจจริงอยากให้ลูกสาวไปทำงานอยู่ต่างจังหวัด แต่ลูกสาวก็ไม่ยอมไป เอาแต่พูดว่า เป็นห่วงพ่อกับแม่และลูกๆ กลัวว่านายมนต์ชัย จะมาทำร้าย
เมื่อไปตรวจสอบที่บ้านพักของนายมนต์ชัย ซึ่งเป็นบ้านไม่มีเลขที่ อยู่ในพื้นที่หมู่ 6 ต.เขาขี้ฝอย อ.ทัพทัน ห่างจากบ้านของ น.ส.นงลักษณ์ ประมาณ 2 กิโลเมตร โดยที่บ้านของนายมนต์ชัยนั้น พบว่า มีชาวบ้านเข้ามามุงดูเหตุการณ์ และมีเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุอยู่ โดยจุดที่เกิดเหตุอยู่บริเวณข้างบ้านพัก พบศพของนายมนต์ชัย นอนอยู่ในเปล โดยใช้อาวุธปืน .38 ยิงเข้าที่บริเวณขมับด้านขวาของตัวเองจนเสียชีวิต คาดว่า น่าจะเป็นอาวุธปืนกระบอกเดียวกันกับที่ใช้ในการก่อเหตุยิงอดีตภรรยา
จากข้อมูลแรงจูงใจในการก่อเหตุของนายมนต์ชัย คาดว่า น่าจะเกิดจากความหึงหวงภรรยา ซึ่งก่อนเกิดเหตุ นายมนต์ชัย ได้โพสต์เฟสบุ๊กส่วนตัวในเชิงหึงหวง น.ส.นงลักษณ์ กับคนในที่ทำงาน ส่วนสาเหตุอื่นๆที่แท้จริงนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนสาเหตุที่แท้จริงอย่างละเอียดอีกครั้ง - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
