CIB รวบ “มือการเงิน” 120 ล้าน เครือข่ายยาเสพติดภาคเหนือ ผตห.บัญชีดำ

CIB รวบ “มือการเงิน” 120 ล้าน เครือข่ายยาเสพติดภาคเหนือ ผตห.บัญชีดำ

127708 พ.ค. 68 20:43   |     Tum1

CIB รวบ “มือการเงิน” 120 ล้าน ผตห.บัญชีดำ ป.ป.ส.เครือข่ายยาเสพติดภาคเหนือ

(8 พ.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กก.3 บก.ปคม. กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พ.ต.ท.ธีรโชติ นุ่นสพ สว.กก.3 บก.ปคม.พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปคม. ร่วมกันจับกุม นายธนกิตติ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 61 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.943/2567 ลงวันที่ 7 มิ.ย.67 (ประกาศสืบจับผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ ตามหมายจับ ประจำปี 68 ลำดับที่ 146 ของสำนักปราบปรามยาเสพติด ป.ป.ส.) ในความผิดฐาน 

  1. สนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด 
  2. ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงในประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายฯ 
  3. สมคบกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินฯ


จากการตรวจสอบ พบว่า ผู้ต้องหายังมีหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.925/2567 ลงวันที่       7 มิ.ย.67 ในความผิดฐาน “สนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด ฐานสมคบโดยตกลงร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดฯ" อีก 1 หมาย โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ บริเวณปากซอยแห่งหนึ่ง ใน จ.สุพรรณบุรี  



จากเมื่อกลางปี 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทลายการขนยาเสพติดเครือข่ายภาคเหนือ ด้วยการจับกุมนักลำเลียงยาได้ 1 คน ของกลางยาบ้าถึง 30 กระสอบ จำนวน 6,000,000 เม็ด และยาไอซ์อีก 30 กิโลกรัม ที่ซุกซ่อนเตรียมส่งลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากชายแดนภาคเหนือตอนบน ส่งต่อไปยังลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง แต่การจับครั้งนั้น ทำให้เจ้าหน้าที่เห็นภาพเบื้องหลังที่ใหญ่กว่า คือการทำงานแบบ “ครบวงจร” ของเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ ที่มีการ “แบ่งหน้าที่กันทำ” อย่างชัดเจน มีตั้งแต่ 

  • “ผู้ว่าจ้าง” หรือตัวบงการ : คนคอยสั่งการใหญ่ จัดหายาเสพติดจากต้นทาง 
  • “ผู้บริหารบัญชีเงิน” หรือมือการเงิน : คอยดูแลด้านการเงินทั้งหมด - จัดการเงินหมุนเวียน
  • “นักขนยา” หรือนักลำเลียง : คนที่ต้องรับความเสี่ยงสูงสุด แบกยาเสพติดจากชายแดนลงมาตามคำสั่ง 


ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขยายผล พบว่า เครือข่ายนี้ขนยามาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง โดยครั้งที่ถูกจับกุมเป็นครั้งที่ 6 และจากการสืบสวนพบว่า นายธนกิตติ์ ผู้ต้องหา เปิดบัญชีให้เครือข่ายดังกล่าว มีหน้าที่บริหารบัญชี จัดการเงิน โอนเงินจ่ายค่าจ้างให้นักขนยาที่เพิ่งถูกจับไป รวมถึงจัดการเงินที่ได้จากการค้ายาทั้งหมด ทั้งกดเงินสด โอนเงินไปให้หัวหน้าขบวนการ บางครั้งขนเงินสดข้ามพรมแดน ไปส่งให้ผู้ว่าจ้างฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน และจากการตรวจสอบบัญชีของนายธนกิตติ์ ยังพบว่า มีเงินหมุนเวียนที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดนี้สูงถึงกว่า 120 ล้านบาท 



เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงขออนุมัติศาลออกหมายจับนายธนกิตติ์ เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่เมื่อนายธนกิตติ์ ทราบว่านักขนยาฯ ที่ถูกว่าจ้าง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้แล้ว และเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะขยายผลถึงตนแน่ จึงได้หลบหนีผ่านช่องทางธรรมชาติ ไปกบดานที่ประเทศเพื่อนบ้านกว่า 1 ปี 

จากนั้น ป.ป.ส.ได้ประกาศขึ้นบัญชี “ผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ” โดยระบุชื่อ นายธนกิตติ์ เป็นผู้ต้องหาขึ้นบัญชีดำ ลำดับที่ 146 ประจำปี 2568 พร้อมประกาศ “ตั้งค่าหัวรางวัล” ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปคม.ได้สืบสวนติดตามจับกุมมาตลอด จนทราบว่า ผู้ต้องหาได้แอบหลบหนีกลับเข้ามาประเทศไทยกบดานอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งใน จ.สุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางไปเฝ้าสังเกตการณ์ บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว ก่อนเจอตัวผู้ต้องหาและเข้าจับกุมดังกล่าว และนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผุ้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน




TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat