สองเกลอสุดแสบเข้าใช้บริการออกแบบทรงผม-ตัดผมอย่างหล่อแล้วชักดาบขู่ขอเงินช่างติดมือแถม
สองเกลอสุดแสบเข้าใช้บริการออกแบบทรงผม-ตัดผมอย่างหล่อแล้วชักดาบขู่ขอเงินช่างติดมือแถม
สองแสบกร่างบุกร้านออกแบบทรงผม-ตัดผมใช้บริการช่างมือโปรผลอย่างหล่อส่งท้ายปี บอกไม่มีเงิน ไม่จ่ายแถมขู่ขอเงินติดมือ ช่างสุดใจเย็นยกมือไหว้เรียบร้อยก่อนออกจากร้านลอยนวลเตือนเป็นอุทาหรณ์
(29 ธ.ค.67) ภาพจากกล้องวงจรปิดในร้านอาตี้บาเบอร์ ริมถนนเทวบุรี ตำบลโพธิ์เสด็จ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ชายวัยรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี จำนวน 2 คน กล้องวงจรปิดบรรทุกคนแรกได้ ส่วนอีกคนไม่อยู่ในกล้อง เข้าใช้บริการในร้านดูเหมือนปกติธรรมดา ในช่วงค่ำวันที่ 28 ธันวาคม กล้องวงจรปิดบันทึกเสียงขณะพูดคุยกับช่างถามถึงแบบทรงผม ออกแบบทรงผมเปลี่ยนทรงผมแบบไหนได้บ้าง โดยช่างได้บริการอย่างเต็มที่เช่นเดียวกับลูกค้าทุกคนที่เข้าร้าน โดยช่างที่ร้านเป็นอดีตช่างผมชื่อดังในวงการแฟชั่นจากกรุงเทพมหานคร ผันตัวเองกลับมาเปิดร้านที่นครศรีธรรมราช
แต่ความพีกเกิดขึ้นหลังจากบริการเสร็จ วัยรุ่นทั้งสองคนกลับบอกว่าไม่มีเงินจ่ายแบบเนียนโดยไม่มีอาการสะทกสะท้านใดๆ เหมือนทุกอย่างวางแผนมาเรียบร้อยจงใจและเจตนาที่จะเข้ามาใช้บริการแล้วไม่ยอมจ่ายเงิน ช่างในร้านถึงกับตะลึง แต่ด้วยความใจเย็นช่างได้แก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าพูดคุยแบบปกติมากๆ ก่อนที่จะยกมือไหว้ชายวัยรุ่นทั้งสองคนด้วยมารยาทอย่างดี ชายวัยรุ่นทั้งสองกำลังเดินออกไปแต่เข้าใจว่าเห็นช่างมีอารมณ์เย็นมาก ได้พูดจาขอเงินช่างติดมือกลับไปด้วยแต่ช่างยังใจเย็นอีกบอกว่า ยังไม่มีลูกค้าเข้าใช้บริการในวันนี้ทำให้ทั้งคู่เดินออกไป
ทีมข่าวไปติดตามข้อมูลเรื่องนี้ที่ร้านอาตี้บาร์เบอร์ พบกับเจ้าของและผู้บริหารร้านคือนายเปรมปรินทร์ ได้ให้ข้อมูลว่า ร้านได้เปิดมานานแล้วทีมในร้านเป็นช่างฝีมือดีเดิมอยู่ในวงการแฟชั่นในกรุงเทพ และเมื่อวางมือจากวงการแฟชั่นได้กลับมาเปิดร้านบาร์เบอร์ที่นครศรีธรรมราช ช่างทุกคนผ่านงานระดับมือโปรมาทั้งหมด ผ่านหลักสูตรสำคัญๆมาในระดับยอดเยี่ยม ช่างที่รับหน้าทั้งสองคนวานนี้มีความใจเย็นอย่างมาก เมื่อรับงานแล้วตั้งใจให้บริการอย่างดี เมื่อเกิดเหตุเหตุการณ์ขึ้นทำให้เสียหายความรู้สึกเป็นธรรมดา
ได้เผยแพร่วงจรปิดผ่านโซเชียลมีเดียไปด้วย มีหลายร้านทั้งร้านอาหาร ร้านตัดผม ต่างให้ข้อมูลว่าทั้งคู่นี้ได้ก่อเหตุมาแล้วนับไม่ถ้วนหลายร้านมากแล้ว มีการจงใจมาใช้วิธีการแบบนี้แล้วไม่จ่ายเงินค่าบริการ พวกเรามีอาชีพให้บริการด้วยความตั้งใจเป็นธรรมดาที่จะเสียความรู้สึก อยากให้ร้านค้า ผู้ประกอบการดูเป็นอุทาหรณ์ อีกอย่างความใจเย็นจะช่วยแก้ไขสถานการณ์ได้เพราะเราไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุอะไรตามมา ส่วนการแจ้งความนั้นไม่ได้แจ้งเพราะไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร” ผู้บริหารร้านระบุ
