ไฟไหม้บ้านวอด 8 หลัง ชาวบ้านเร่งอพยพหนีตาย
ไฟไหม้บ้านวอด 8 หลัง ชาวบ้านเร่งอพยพหนีตาย

ไฟไหม้ชุมชนบ้านไม้เก่าย่านราษฎร์บูรณะ วอด 8 หลัง ชาวบ้านเร่งอพยพหนีตาย ทางเข้าคับแคบ รถดับเพลิงเข้าไม่ถึง
(21 มิ.ย.68) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ร.ต.ท.วีระเดช กาศสนุก รอง สว.สอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนภายในซอย ราษฎร์บูรณะ 26 แยกย่อย ซอยที่ 3 จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสาน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสถานีดับเพลิงและกู้ภัยราษฎร์บูรณะ และอาสาสมัครป้องกันภัยฝายพลเรือน (อปพร.เขตราษฎร์บูรณะ) พร้อมทั้งอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
ที่เกิดเหตุ ภายในซอยราษฎร์บูรณะ 26 แยกย่อยซอยที่ 3 ภายในชุมชนไม่มีชื่อ เเขวงราษฎร์บูรณะ เขตราษฎร์บูรณะ กทม.เป็นลักษณะชุมชนบ้านไม้เก่าปลูกติดกันหลายหลังซอยคับแคบ รถดับเพลิงขนาดใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงบ้านต้นเพลิงได้ มีแสงเพลิงและกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากภายในชุมชนดังกล่าว และกำลังรุกไหม้บ้านอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงช่วยกันแบกเครื่องหาบหาม ต่อสายยางหัวฉีดดับเพลิงเร่งสกัดไฟเป็นการเร่งด่วน ท่ามกลางความชุลมุนของชาวบ้าน ที่ต่างเร่งอพยพขนข้าวของออกมาจากตัวบ้าน ใช้เวลาทั้งสินกว่า 40 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ บ้านเรือนประชาชนเสียหายไปทั้งหมด 8 หลังคาเรือน เคราะห์ยังดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว
จากการสอบถาม นายภัชทรินทร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 29 เจ้าของบ้านต้นเพลิง อาชีพไรเดอร์ กล่าวว่า ตนเพิ่งจะตื่นหลานเป็นคนมาปลุก ก็เห็นว่า ไฟมันไหม้ข้างฝาริมกำแพงบ้านของตนแล้ว ตนก็เป็นคนเอาน้ำไปดับไฟแต่มันก็ไม่ทันแล้ว ถ้าตนยังฝืนเข้าไปอีก ก็จะโดนไฟคลอกด้วย ตอนเกิดเหตุมันมีเสียเหมือนไฟปะทุ เหมือนเสียงระเบิด ไหม้ริมกำแพงฝาบ้านของแม่ตน แต่ตอนนั้นไฟยังลามไปไม่ถึงบ้านที่ตนนอน
ส่วนตอนเกิดเหตุ แม่ของตนไม่อยู่ ออกไปทำงาน และไม่มีคนอยู่บ้าน ขณะที่น้องชายของตน นอนอยู่บ้านอีกหลัง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนก็ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร อยู่ดีๆไฟก็ไหม้ ขนของออกมาไม่ทันแล้ว เอาของออกมาแค่พวกรถจักรยานยนต์ แต่เสื้อผ้าเอาออกมาไม่ทัน บ้านตนซึ่งเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวถูกไฟไหม้หมดทั้งหลัง
เบื้องต้น จากการตรวจสอบแล้วพบว่า บ้านเรือนประชาชนที่ถูกไฟไหม้ ได้รับความเสียหายไปทั้งหมดถึง 8 หลังคาเรือน แล้วส่วนใหญ่จะเป็นบ้านไม้ปลูกติดกั นซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ซอยคับแคบรถดับเพลิงขนาดใหญ่เข้าไม่ถึงจุดเกิดเหตุ ประปาหัวแดงอยู่ไกล จึงทำให้การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบากและล่าช้า แต่ยังถือว่าเคราะห์ดี ที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างตรวจสอบของเจ้าหน้าที่และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
