ยอดขายตก หลังพบสารเคมีในองุ่นไซน์มัสแคท
ยอดขายตก หลังพบสารเคมีในองุ่นไซน์มัสแคท
ยอดขายตก หลังพบสารเคมีในองุ่นไซน์มัสแคท สสจ.จับมือ เทศบาลตรวจตลาดขายผลไม้ แม่ค้ายืนยัน ยอดลดฮวบเกินครึ่ง ต้องสั่งองุ่นไซมัสคัสลดลง วอนให้ภาครัฐได้เร่งตรวจสอบต้นทาง ในการนำเข้าองุ่นเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค
(25 ต.ค.67) ที่ตลาดรถไฟ นายณจาวิชย์ ทัตหิรัญรัตน์ ผู้จัดการโครงการตลาดรถไฟขอนแก่น นำเจ้าหน้าที่กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น และเจ้าหน้าที่จากเทศบาลนครขอนแก่น ตรวจร้านค้าปลีกและค้าส่งผลไม้ ในตลาดรถไฟ ซึ่งเป็นตลาดค้าส่งและค้าปลีกผลไม้ ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ ใหญ่ที่สุดของจังหวัดขอนแก่น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สะพรึง! สุ่มตรวจองุ่นไชน์มัสแคท พบสารพิษตกค้าง 50 ชนิด และพบตกค้างเกินค่ามาตรฐานมากถึงร้อยละ 95.8 %
สุ่มตรวจ “ไชน์มัสแคท” พบสารพิษตกค้าง-สารอันตราย
เนื่องจากมีเครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (Thai-PAN) และมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค สุ่มตรวจองุ่นไชน์มัสแคท 24 ตัวอย่าง ทั่วกรุงเทพและปริมณฑล โดยสุ่มตรวจสารเคมีเกษตรมากกว่า 400 ชนิด พบสารเคมีเกษตรตกค้างในทุกตัวอย่างที่ตรวจ และพบตกค้างเกินค่ามาตรฐานมากถึงร้อยละ 95.8
ในส่วนของจังหวัดขอนแก่นนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น มอบหมายให้ นางกนกพร ธัญมณีสิน เภสัชกรชำนาญการพิเศษ เป็นหัวหน้าชุดในการลงพื้นที่ตรวจ ณ ตลาดรถไฟซึ่งเป็นตลาดค้าส่งผลไม้แหล่งใหญ่ทั้งจากในประเทศและผลไม้นำเข้าจากต่างประเทศ โดยตรวจเฝ้าระวังองุ่นไซน์มัสแคท ที่มีชื่อและยี่ห้อ ที่มีการเก็บตัวอย่างวิเคราะห์พบสารเคมีตกค้าง เพื่อดำเนินการให้งดการจำหน่ายแก่ผู้บริโภค
โดยเจ้าหน้าที่จากกลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น จะตรวจสอบเฝ้าระวังผลิตภัณฑ์สุขภาพผักผลไม้นำเข้าเชิงรุก และยังมีแผนในการตรวจโรงคัดบรรจุผักและผลไม้และเก็บตัวอย่างส่งตรวจวิเคราะห์หาสารกำจัดศัตรูพืชตกค้าง จำนวน 1,530 ตัวอย่าง เพื่อเฝ้าระวังความปลอดภัยให้กับผู้บริโภคอีกด้วย ส่วนพื้นที่จังหวัดขอนแก่น มีโรงคัดบรรจุผักและผลไม้ จำนวน 11 แห่งก็ได้รับการตรวจสอบด้วยเช่นกัน
ขณะที่นางลลิตา อายุ 43 ปี เจ้าของร้าน ซึ่งเป็นร้านค้าปลีกผลไม้นานาชนิดทั้งผลไม้ในประเทศและต่างประเทศ เปิดเผยว่า มีกระแสเรื่องสารเคมีในองุ่นไชน์มัสแคทมาตั้งแต่กลางเดือนแล้ว ส่วนการค้าขายองุ่นดังกล่าวนั้น จะมีพ่อค้า แม่ค้าคนกลาง รับองุ่นดังกล่าวมาจากตลาดไทย นำมาขายส่งให้พ่อค้าแม่ค้า ที่เป็นทั้งร้านขายส่งและร้านขายปลีกในตลาดรถไฟ
ที่ร้านจะรับซื้อองุ่นไชน์มัสแคท มาขายครั้งละ 5 ตะกร้าๆละ 4 กิโลกรัมครึ่ง 1 ตะกร้าราคาจะอยู่ที่ประมาณ 450 บาท โดยทางร้านรับซื้อมาราคากิโลกรัมละ 120 บาท นำมาขายปลีกในราคากิโลกรัมละ 180-200 บาท แต่เมื่อมีข่าวเรื่องสารเคมีในองุ่นชนิดดังกล่าวแพร่หลายมากขึ้น ลูกค้าก็ซื้อน้อยลง จึงสั่งมาขายน้อยลงเช่นกัน
“ในฐานะคนค้าขาย และคนปลายทาง ที่ทำมาหากินอาชีพสุจริต
อยากให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะคณะกรรมการอาหารและยา ควรทำการคัดกรองและตรวจหาสารเคมีจากองุ่นไชน์มัสแคท หรือผลไม้นำเข้าทุกชนิด ก่อนที่จะปล่อยออกมาให้มีการขายในตลาดทั่วประเทศ ไม่ใช่มาเข้มงวดกับพ่อค้าแม่ค้าที่นำมาขายที่ปลายทาง จึงขอให้ทำการเข้มงวดที่จุดตรวจการนำเข้าผลไม้ทุกชนิดด้วย เหมือนที่ต่างประเทศตรวจเข้มกับเนื้อสัตว์ที่ไปจากประเทศไทย หากตรวจพบสารเคมีเหมือนเช่นองุ่นไชน์มัสแคท ก็ควรจะมีมาตรการเด็ดขาด ว่าห้ามนำเข้ามาจำหน่าย”
ทางด้าน นายณจาวิชย์ ทัตหิรัญรัตน์ ผู้จัดการโครงการตลาดรถไฟขอนแก่น กล่าวว่า จากกรณีกระแสสารเคมีจากองุ่นไชน์มัสแคทนั้น ปัญหามันเกิดที่ต้นทาง ตลาดคือปลายทางที่ร้านค้าทั้งค้าส่ง ค้าปลีกรับมาจำหน่าย เมื่อเกิดปัญหา ตลาดก็พร้อมให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงาน แต่ขณะนี้ยังไม่มีการห้ามจำหน่าย มีเพียง สสจ.ขอนแก่นและเทศบาลเข้ามาตรวจสอบเท่านั้น และยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามากำหนดมาตรการใด ตลาดจึงยังไม่มีการระงับการจำหน่ายองุ่นไชน์มัสแคท