รวบ “อ้วนลาย บางซื่อ” หลังรัวปืน-ปาระเบิด เปิดศึกถล่มแก๊งอริ

(26 มิ.ย.68) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.ธีรเดช อรุณนพรัตน์ สว.กก.1 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชป.12 กก.1 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายพงศธร หรือ ภู (สงวนนามสกุล) ฉายา "อ้วนลาย บางซื่อ" อายุ 20 ปี บริเวณหน้าบ้านในพื้นที่ ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.2665/2568 ลง 6 พ.ค.68 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน

1. ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น
2. มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านฯ
3. ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมชน

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 6 พ.ค.68 เวลาประมาณ 00.55 น. ตำรวจ สน.เตาปูน ได้รับแจ้งเหตุวัยรุ่นไล่ทำร้ายกันจำนวนหลายคน โดยมีการใช้อาวุธปืนยิง และใช้ระเบิดปิงปองปาใส่กัน บริเวณถนนริมทางรถไฟสายใต้ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ พบผู้เสียหายนอนอยู่บริเวณพื้น สอบถามผู้เสียหายจึงทราบว่า ได้ถูกกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 10 คน โดยมีนายภู ผู้ต้องหา ขี่รถจักรยานยนต์ สีเทา พร้อมพวก มาถึงที่เกิดเหตุได้จอดรถและเดินลงมาหน้าบ้านที่เกิดเหตุและได้ใช้อาวุธปืนยิงประมาณ 7-8 นัด และได้ขว้างปาระเบิดปิงปอง ใส่กลุ่มของผู้เสียหายที่อยู่ในบ้านจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนหลบหนีไป 

ซึ่งผู้เสียหาย เชื่อว่า เหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดมาจากการที่กลุ่มของผู้เสียหาย ได้อัดคลิปท้าทายกันในโซเชียลมีเดีย กับกลุ่มของนายภู หลังเกิดเหตุ ผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน ให้ติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ต่อมา พนักงานสอบสวน สน.เตาปูน ได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหา และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป.ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า หลังเกิดเหตุ ผู้ต้องหาได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่ ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จึงลงพื้นที่ตรวจสอบและวางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ จนสามารถจับกุมผู้ต้องหารายดังกล่าวได้ จากนั้น นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการตรวจสอบเพิ่มเติม ของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ทราบว่า เมื่อปี 2566 นายภู ได้โดนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.เตาปูน จับกุมในข้อหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต” และได้รับโทษเป็นเวลาประมาณ 1 ปี 6 เดือน เมื่อพ้นโทษออกมา จึงก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวซ้ำเป็นรอบที่สอง

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า หลังเกิดเหตุผู้ต้องหาได้นำอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ไปขายต่อให้กลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ จ.ระยอง และได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่ในระยอง ก่อนที่จะกลับมาอยู่ที่ อ.บางบัวทอง นนทบุรี จนมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมดังกล่าว - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน