ตร.-กฟภ.กรุงเก่า บุกทลายเหมืองบิตคอยน์ ลักใช้ไฟฟ้า เสียหาย 3 ล้านบาท

ตร.-กฟภ.กรุงเก่า บุกทลายเหมืองบิตคอยน์ ลักใช้ไฟฟ้า เสียหาย 3 ล้านบาท

84611 มิ.ย. 68 18:58   |     Tum1

ตร.-กฟภ.กรุงเก่า บุกทลายเหมืองบิตคอยน์ ลักใช้ไฟฟ้า เช่าตึกถึง 3 แห่ง 3 อำเภอ ความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท ยึดเครื่องขุด 90 เครื่อง รวบผู้ต้องหา 1 ราย

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 11 มิ.ย.68 พล.ต.ต.ไพโรจน์ สุขรวยธนโชติ รอง.ผบช.ภ.1 , พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 , เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางปะอินพร้อม นายกัมพล ดำเนินศิลป์ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค พระนครศรีอยุธยา , นายวิสูตร จันทร์นิล ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาอุทัย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กระจายกำลังบุกตรวจสอบ ทลายเหมืองขุดบิตคอยน์ ลักใช้ไฟหลวงฟรี ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกันได้ถึง 3 แห่ง ได้แก่ อ.บางปะอิน , อ.อุทัย และ อ.พระนครศรีอยุธยา

  • จุดที่ 1 อาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น ตั้งอยู่ริมโรจนะ ขาเข้า ในพื้นที่ ต.สามเรือน อ.บางปะอิน 
  • จุดที่ 2 อาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ริมถนนสาย อุทัย – ภาชี มุ่งหน้าไป อ.ภาชี ในพื้นที่ ต.คานหาม อ.อุทัย 
  • จุดที่ 3 อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ในพื้นที่ ต.เกาะเรียน อ.พระนครศรีอยุธยาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 



โดยทั้ง 3 แห่ง พบลักษณะคล้ายกัน ชั้นล่างเป็นประตูเหล็กม้วนด้านล่างปิดล็อก ที่สายไฟด้านหน้าถูกปิดทับด้วยฝา จึงทำการตรวจสอบ ใต้ฝ่าพบมีการลักเชื่อมต่อสายไฟเข้าไปในตัวอาคาร เจ้าหน้าที่ตัดกุญแจเข้าไปตรวจสอบ พบที่ชั้นล่าง มีการเจาะพื้นร้อยสายไฟทะลุพื้นขึ้นไปยังชั้น 3 แห่งที่ 1 และ ชั้น 4 แห่งที่ 2 

เมื่อขึ้นไปตรวจสอบด้านบน พบอุปกรณ์เครื่องขุดบิตคอยน์ 30 เครื่อง คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง พัดลมขนาดใหญ่ 1 ตัว และอุปกรณ์สายไฟ จึงได้ทำการตรวจยึดทั้งหมด 3 แห่งรวมทั้งหมด เครื่องขุดคอยน์ จำนวน 90 เครื่อง , คอมพิวเตอร์ 3 เครื่อง พัดลมขนาดใหญ่ 3 ตัว


พล.ต.ต.ไพโรจน์ รอง.ผบช.ภ.1 กล่าวว่า คดีนี้เป็นการกระทำของผู้ที่มีความรู้ในด้านนี้เป็นอย่างดี โดยจะได้รับเงินส่วนแบ่งจากเงินดิจิทัล แต่ที่พลาดและผิดคือการใช้ไฟฟ้าหลวงฟรี โดยลักทรัพย์ของการไฟฟ้า 3 เดือน เดือนละ 300,000 – 400,000 บาท ค่าเสียหายทั้ง 3 แห่งที่ลักลอบ มูลค่ารวมประมาณ 3 ล้านบาท ส่วนตัวเครื่องขุดบิตคอยน์ จะต้องตรวจสอบการนำเข้า ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้การไฟฟ้าตรวจสอบ พบความผิดปกติของสถานที่ทั้ง 3 แห่ง ว่ามีการต่อไฟและรับไฟใช้ โดยยังมีการเช่าตึก โดยไม่มีใครอยู่  



อยากฝากถึงผู้ที่กระทำผิดให้เลิกพฤติกรรม ไม่ควรมาลักทรัพย์ของชาติ ซึ่งไม่ถูกต้อง จากนี้จะติดตามขยายตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีโดยเร็ว เพราะพบว่า ผู้กระทำผิดมาเช่าพื้นที่ และติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ ควบคุมการใช้เครื่อง จากนั้น ก็ล็อกประตูปล่อยให้เครื่องทำงาน โดยมีการดูจากข้างนอก ไม่ต้องเข้ามาภายในอาคารดูด้วยตัวเอง และจ่ายค่าเช่าปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือมาลักไฟหลวงใช้ เพราะตรวจสอบพบเครื่องทำงานอยู่ แต่มิเตอร์ไฟไม่เดิน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับ ผู้ต้องหาได้แล้ว 1 คน อยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน 



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat