“ชาญชัย” ยื่นหลักฐานเพิ่ม จี้ ป.ป.ช.ฟันไม่เลี้ยง ครม.นิด-อิ๊งค์, สส., สว.

“ชาญชัย” ยื่นหลักฐานเพิ่ม จี้ ป.ป.ช.ฟันไม่เลี้ยง ครม.นิด-อิ๊งค์, สส., สว.

81902 ก.ค. 68 15:21   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

“ชาญชัย อิสระเสรีรักษ์” ยื่นหลักฐานเพิ่มอีก 11 ชิ้น จี้ ป.ป.ช.เอาผิดทั้งหมด ทั้ง ครม.เศรษฐา-แพทองธาร และ ส.ส.-ส.ว. ปม ม.144 - “สมชาย แสวงการ” ยืนยัน “แพทองธาร” ถวายสัตย์ฯ เป็นรัฐมนตรีไม่ได้

(2 ก.ค. 68) นายชาญชัย อิสระเสรีรักษ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์, นายสมชาย แสวงการ อดีต ส.ว., นายเจษฎ์ โทณะวณิก และนายนิติธร ล้ำเหลือ (ทนายนกเขา) เดินทางมายื่นหลักฐานและเอกสารเพิ่มเติมต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีการกระทำผิดฝ่าฝืนมาตรา 144 ของรัฐธรรมนูญ


เรื่องดังกล่าวเกี่ยวกับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 โดยกล่าวอ้างว่า คณะรัฐมนตรีของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน และรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร รวมถึงคณะกรรมาธิการงบประมาณฯ ส.ส. และ ส.ว. มีการลงมติสั่งตัดงบประมาณ 35,000 ล้านบาท ให้ 5 ธนาคารของรัฐไปกู้ยืม รวมถึงมีการโยกเงินไปใช้ในโครงการ Digital Wallet โดยไม่ได้มีการสั่งระงับหรือยับยั้ง


นายชาญชัยกล่าวว่า ได้นำเอกสารเพิ่มเติม 11 รายการมามอบให้ ป.ป.ช. เพื่อเร่งรัดการทำงาน โดยเอกสารประกอบด้วย เรื่องการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ปี 2567 และ 2568, สำเนาเอกสารจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับแนวทางการเสนอและการเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ที่ต้องปฏิบัติตามมาตรา 144 และ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด รวมถึงบันทึกการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ 2568 ซึ่งเป็นหลักฐานการกู้เงินตามมติ ครม. ของ 5 ธนาคารรัฐวิสาหกิจ ทั้งนี้ นายชาญชัยมั่นใจว่าพยานหลักฐานเหล่านี้เพียงพอที่จะเอาผิดได้


เมื่อถูกถามถึงกรณีที่อาจเกิดสุญญากาศทางการเมืองหากมีการถอดถอนคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี ส.ส. และ ส.ว. นายเจษฎ์ระบุว่าจะไม่เกิดสุญญากาศ เนื่องจากมีทางออก 2 ทาง หากมีการพิจารณาแล้วพบว่ามีความผิดจนนำไปสู่การพ้นจากตำแหน่ง


ในกรณีที่คณะรัฐมนตรีทำผิดและไม่สามารถรักษาการได้ จะต้องให้ปลัดกระทรวงต่างๆ ขึ้นมาทำหน้าที่รักษาการ โดยเลือกปลัดหนึ่งท่านทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี แต่จะไม่สามารถบริหารงานได้เต็มที่ พรรคการเมืองสามารถลาออก ทำให้จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนผ่าน ซึ่งไม่ใช่การปฏิวัติรัฐประหารหรือการเสนอชื่อนายกฯ พระราชทาน โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะต้องสอบถามศาลรัฐธรรมนูญเพื่อจัดการเลือกตั้งโดยเทียบเคียงกับกรณียุบสภา ซึ่งจะไม่ทำให้เกิดสุญญากาศ นายเจษฎ์ยืนยันว่าการดำเนินการครั้งนี้ไม่ได้มีเจตนาให้เกิดสุญญากาศหรือการปฏิวัติรัฐประหาร



นายสมชาย แสวงการ ยังกล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี โดยชี้ว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักเลขาธิการรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย และฝ่ายพิธีการ จะต้องตรวจสอบคำวินิจฉัยของศาลให้ชัดเจน


นายสมชายระบุว่า จากการตรวจสอบแล้ว นางสาวแพทองธารไม่สามารถเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้ เนื่องจากตำแหน่งที่ผู้ร้องร้องคือตำแหน่งรัฐมนตรีที่ประพฤติมิชอบไม่สุจริต ซึ่งศาลเริ่มวินิจฉัยว่าต้องพ้นจากตำแหน่ง


ดังนั้น จึงขอให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบให้ชัดเจนและอย่าตีความกฎหมายตามฝ่ายการเมือง โดยเน้นย้ำว่า หากภายหลังศาลมีคำสั่งว่านางสาวแพทองธารไม่มีความผิด ก็ยังไม่สายที่จะเข้าถวายสัตย์ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat