แม่วัย 67 ร้องทนายดัง ลูกสาวหลอกเซ็น ขายที่ดิน - โดนฟ้องขับไล่
แม่วัย 67 ร้องทนายดัง ลูกสาวหลอกเซ็น ขายที่ดิน - โดนฟ้องขับไล่

แม่วัย 67 ร้องทนายดัง ถูกลูกสาวหลอกเซ็นชื่อ "ขายที่ดิน" ก่อนโดนฟ้องขับไล่
(15 พ.ค.68) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร นายกฤษฎา โลหิตดี หรือ ทนายโนบิ พร้อมทีมงาน พานางทันสมัย (สงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี ชาวบ้านดงมะไฟพัฒนา ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.สกลนคร เข้าร้องทุกข์ต่อ พล.ต.ต.สมจิตร เหล่ามงคลนิมิต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร โดยมี พ.ต.อ.อัษดิน สมศรี รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร รับเรื่องแทน หลังถูก น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี ลูกสาวของนางทันสมัย หลอกให้ไปเซ็นเอกสารที่ดิน 2 โฉนด รวม 1 งาน 34 ตาราวา จำนองที่ดินกับนายทุน ต่อมาเมื่อจะขายที่ดินกับคนจะขอซื้อรายใหม่ เมื่อลูกชายไปคัดสำเนาโฉนดปรากฏว่า ที่ดินถูกซื้อขายไปแล้ว ถึงกับเข่าทรุด
สืบเนื่องจาก นางทันสมัย ลูกสาวและลูกชาย รวม 3 คน ต้องการแบ่งมรดกโฉนดที่ดินกัน แต่ที่ดินดังกล่าวติดจำนองกับธนาคารออมสินยังทำอะไรไม่ได้ ลูกสาวได้ไปหานายทุน เพื่อไถ่ถอนที่ดินจากธนาคาร และจดจำนองกับนายทุนรายใหม่ ต่อมาวันที่ 25 ต.ค.67 ลูกสาวมาพร้อมนายทุน มารับแม่ถึงวัดในหมู่บ้านขณะทำบุญ เนื่องจากพี่สาวไม่อยากให้น้องชายรู้ จากนั้น ลูกสาวพานางทันสมัยผู้เป็นแม่ไปเซ็นเอกสารที่สำนักงานที่ดิน โดยไม่บอกรายละเอียดใดๆให้แม่รู้ แม่จึงเข้าใจว่าลูกสาวพาไปเปลี่ยนสัญญาจดจำนองรายใหม่
จากนั้น วันที่ 24 ธ.ค.67 มีห้างแห่งหนึ่งต้องการซื้อที่ดินทั้งหมดในราคา 14 ล้านบาท จึงบอกว่าที่ดินติดจำนองอยู่ พอไปคัดโฉนดออกมาปรากฏว่าโฉนดดังกล่าวขายไปแล้ว ตั้งแต่ 25 ต.ค.67 ในราคา 650,000 บาท
กลายเป็นว่า นางทันสมัยถูกลูกสาวแท้ๆ พาไปหลอกให้เซ็นขายโฉนดที่ดิน ซึ่งไม่ได้จดจำนองแต่อย่างใด จึงไปแจ้งความไว้ตั้งแต่ 24 ก.พ.68 ที่ สภ.ขมิ้น หนำซ้ำต่อมาวันที่ 1 พ.ค.68 ถูกหมายศาลของนายทุนคนล่าสุด ฟ้องขับไล่ที่ จึงเดินทางมาพร้อมด้วยทนายโนบิ เพื่อเร่งรัดคดีเอาผิดลูกสาว และผู้ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย
ทนายโนบิ กล่าวว่า ประเด็นนี้ถืออาศัยช่องโหว่เรื่องการศึกษา และไม่น่ามาทำกับแม่ตัวเองได้ขนาดนี้ ตรวจสอบข้อมูลแล้วทราบว่า ลูกสาวคนนี้ มีสามีและมีอาชีพค้าขายในตัวเมือง มักมาขอเงินแม่ที่บ้านดงมะไฟพัฒนา อยู่เป็นประจำ โดยอ้างเหตุผลว่า มีหนี้เยอะ แต่ด้วยความเป็นแม่จึงคิดว่าลูกสาวไม่น่าจะทำได้ขณะนี้ และยืนยันว่าลูกสาว ไม่เคยให้ส่วนต่างแม่แม้แต่บาทเดียว
ตอนนี้ลูกสาวติดต่อไม่ได้ และไม่ทราบที่อยู่แล้ว ได้ยินมาว่าไปต่างประเทศ ทั้งนี้ในส่วนทางคดี ตนพร้อมช่วยในเรื่องเร่งรัดคดีและดำเนินการทางกฎหมาย พิสูจน์ข้อเท็จจริงให้ได้เพื่อเพิกถอนธุรกรรมดังกล่าว และตรวจสอบว่าหากมีบุคคลที่เกี่ยวข้องมาเบียดเบียน เอาที่ดินของนางทันสมัยไปในราคาถูกกว่าประเมิน และเพื่อโก่งราคา ก็จะเอาในเรื่องนี้ด้วย - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน