จอดรถที่ลานจอดต้องระวัง! คนร้ายแอบเปิดประตูก่อนรถล็อก

(30 พ.ย. 67) เพจเฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทิร์น Part 6 ได้โพสต์เรื่องราวของชายหนุ่มรายหนึ่ง แชร์ประสบการณ์ผ่านโซเชียลมีเดีย หลังจอดรถที่ศูนย์การค้าฯแห่งหนึ่งในย่านบางใหญ่ แล้วถูกค้นรถโดยไม่รู้ตัว โชคดีที่ไม่มีทรัพย์สินสูญหาย

เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อผู้โพสต์จอดรถและคิดว่ารถล็อกอัตโนมัติเหมือนทุกครั้ง แต่มีคนร้ายอาศัยช่วงเวลาหน่วงก่อนล็อก ทำการสะกิดเปิดประตูหลังไว้ เมื่อเจ้าของรถกลับมาที่รถก็พบขวดน้ำแปลกปลอมบนเบาะ จึงเอะใจและตรวจสอบกล้องในรถเทสลา ซึ่งบันทึกภาพการค้นรถไว้ทั้งหมด

จากคลิปพบว่าคนร้ายทำทีคุยโทรศัพท์ตลอดเวลา และอาจมีทีมงานช่วยระวังหน้า-หลัง ลักษณะเป็นขบวนการ อย่างไรก็ตาม ผู้โพสต์โชคดีที่ทรัพย์สินสำคัญ เช่น MacBook และของมีค่าอื่นๆ ไม่ได้ถูกนำไป เนื่องจากคนร้ายค้นไม่ละเอียด

คนร้ายเดินสวนกับคุณแม่ของเจ้าของรถที่เพิ่งเดินลงจากรถมา

ผู้เสียหายได้แจ้งเหตุให้ทางศูนย์การค้าฯและหน่วยรักษาความปลอดภัยทราบ พร้อมฝากเตือนผู้ขับขี่ทุกคนให้ระมัดระวังและตรวจสอบการล็อครถทุกครั้ง พร้อมทิ้งท้ายด้วข้อความว่า “จากนี้ผมคงต้องเช็คให้มั่นใจว่ารถล็อกทุกครั้งที่จอด ขอฝากเตือนทุกคนให้ระวังภัยในลักษณะนี้ด้วยครับ”

ล่าสุดวันนี้ ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับนายอรรณพ อายุ 30 ปี ผู้ประสบเหตุ เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พ.ย. 67 เวลาประมาณ 18.30 น. ตนขับรถมาทานข้าวกับคุณแม่ในศูนย์การค้าแห่งหนึ่งย่านบางใหญ่

ในตอนแรกตนไม่รู้ตัวเลยว่ารถถูกค้น จนเมื่อสังเกตเห็นขวดน้ำยี่ห้อที่ตนไม่ได้กินถูกวางทิ้งไว้ยนรถ จึงรู้ว่ามีเรื่องผิดปกติ และเมื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของรถจึงเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เชื่อว่าคนร้ายมีความรู้เรื่องรถพอสมควร รู้ว่ารถรุ่นใหม่ๆ จะมีระบบที่เมื่อคนขับเดินห่างออกมาจากตัวรถ รถก็จะล็อกให้อัตโนมัติ และรู้ว่าคนขับส่วนใหญ่มักจะไม่ระวัง จึงอาศัยจังหวะที่เจ้าของรถเดินออกไปแต่รถยังไม่ทันล็อก มากดเปิดประตูหลังทิ้งไว้ แล้วค่อยย้อนกลับมาก่อเหตุทีหลัง

คนร้ายเดินอ้อมมาเดินผ่านข้างรถฝั่งคนขับ และแอบกดเปิดประตูหลังไว้ก่อนรถล็อก

สำหรับกรณีของตนโชคดีที่ได้ที่จอดที่ติดกับทางเข้า-ออก และคนพลุกพล่านมาก ทำให้คนร้ายต้องรีบใช้เวลาในการก่อเหตุ ทำให้ระแวงและไม่สามารถได้ทรัพย์สินมีค่าของตนไป หลังทราบเรื่องตนได้แจ้งให้กับทางรปภ.ของศูนย์การค้าฯทราบ และลองดูวงจรปิด ว่าคนร้ายรายนี้ได้ไปทำพฤติกรรมแบบนี้กับรถลูกค้าคันอื่นหรือไม่ เพราะดูจากลักษณะแล้วน่าจะทำเป็นกระบวนการ คนร้ายมีการถือโทรศัพท์มือถือและพูดคุยโทรศัพท์ตลอดเวลา คาดว่าคงมีคนช่วยดูต้นทางให้และร่วมก่อเหตุด้วย อาจจะไม่ใช่รถของตนคันเดียวที่โดน

หลังกดเปิดประตู คนร้ายเดินออกจุดจอดรถคันเป้าหมายไป

หลังจากที่ตนได้โพสต์เตือนภัยตามโซเชียลต่างๆ ก็มีหลายคอมเมนต์เข้ามาพูดคุยว่าหลายคนไม่ทันได้ระวังตัวกับเรื่องนี้ ซึ่งตนก็คิดไปไกลว่าหากคนร้ายยังอยู่ในรถและจี้ตน อาจจะทำให้สูญเสียมากกว่านี้ จึงอยากออกมาเตือนภัยเพื่อให้ทุกคนระมัดระวังตัวมากขึ้น และเรื่องนี่ตนอยากทราบว่าหากทรัพย์สินของตนไม่ได้หายไป จะสามารถแจ้งความเอาผิดกับคนร้ายรายนี้ได้หรือไม่ หากเอาผิดได้ตนก็จะเดินทางเข้าแจ้งความดำเนินขั้นตอนตามกฏหมายต่อไป เพราะไม่อยากให้มีเหยื่อรายต่อไปอีก 

คนร้ายเดินวกกลับมาก่อเหตุหลังมั่นใจว่าเจ้าของรถเข้าห้างไปแล้ว

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามคดีความกับทางด้านพ.ต.อ.รณภัฎ ทับทิมธงไชย ผกก.สภ.บางใหญ่ เปิดเผยว่า แม้ว่าผู้ร้องเรียนจะไม่ได้สูญเสียทรัพย์สิน แต่จากการตรวจสอบพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ในตัวรถยนต์ เบื้องต้นถือว่าการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดฐานพยายามลักทรัพย์ อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจอยากแนะนำให้ผู้ร้องเรียนเดินทางมายัง สภ.บางใหญ่ เพื่อแจ้งความกับพนักงานสอบสวน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป เนื่องจากจากหลักฐานที่มีนั้นแสดงให้เห็นถึงเจตนาที่จะกระทำการลักทรัพย์

คนร้ายเปิดรถค้นหาทรัพย์สินมีค่า