รวบ “ดูเตอร์เต” คาสนามบิน หลัง ICC ตั้งข้อหาก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ

รวบ “ดูเตอร์เต” คาสนามบิน หลัง ICC ตั้งข้อหาก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ

58211 มี.ค. 68 12:24   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

รวบตัว “ดูเตอร์เต” อดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์คาสนามบินที่มะนิลา หลังเจอ ICC ตั้งข้อหาก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ จากนโยบายสงครามยาเสพติดที่คร่าชีวิตผู้คนมากกว่าหมื่นคน

(11 มี.ค. 68) สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน อดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ โรดริโก ดูเตอร์เต ถูกตำรวจจับกุมในกรุงมะนิลาช่วงเช้าวันอังคาร ตามหมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ที่เกี่ยวข้องกับสงครามยาเสพติดของเขาซึ่งคร่าชีวิตผู้คนจำนวนมาก


ศาล ICC ระบุว่า ดูเตอร์เต วัย 79 ปี ถูกตั้งข้อหา “อาชญากรรมต่อมนุษยชาติในรูปแบบการสังหาร” จากปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติดที่องค์กรสิทธิมนุษยชนคาดการณ์ว่ามีผู้เสียชีวิตเป็นหมื่นคน ส่วนใหญ่เป็นชายยากจน โดยที่หลายกรณีไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าพวกเขาเกี่ยวข้องกับยาเสพติด


“ช่วงเช้าตรู่วันนี้ อินเตอร์โพลมะนิลาได้รับสำเนาหมายจับจากศาล ICC อย่างเป็นทางการ” ทำเนียบประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ระบุในแถลงการณ์ พร้อมเสริมว่า “ขณะนี้เขาอยู่ในการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่”


แถลงการณ์ยังระบุว่า “อดีตประธานาธิบดีและกลุ่มของเขายังคงมีสุขภาพแข็งแรง และอยู่ระหว่างการตรวจร่างกายโดยแพทย์ของรัฐบาล”


เสียงคัดค้านและการสนับสนุน


ซัลวาดอร์ พาเนโล อดีตที่ปรึกษากฎหมายของดูเตอร์เต ประณามการจับกุมครั้งนี้ว่า “ผิดกฎหมาย” โดยกล่าวว่า “ตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ (PNP) ไม่อนุญาตให้ทนายของเขาพบและซักถามถึงพื้นฐานทางกฎหมายของการจับกุม” พร้อมเสริมว่ายังไม่มีการมอบสำเนาหมายจับของ ICC ฉบับจริงให้


ในขณะที่กลุ่มสนับสนุนครอบครัวของเหยื่อสงครามยาเสพติดแสดงความยินดีกับการจับกุมครั้งนี้ โดย รูบิลิน ลิเทา ผู้ประสานงานขององค์กร Rise Up for Life and for Rights กล่าวว่า “เหล่าแม่ที่สามีและลูกๆ ของพวกเขาถูกฆ่าตายเพราะสงครามยาเสพติดมีความสุขมาก เพราะพวกเขารอวันนี้มานาน”


องค์การฮิวแมนไรท์วอทช์ (Human Rights Watch) เรียกร้องให้รัฐบาลของประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ส่งตัวดูเตอร์เตให้ศาล ICC โดยระบุว่าการจับกุมครั้งนี้เป็น “ก้าวสำคัญของความยุติธรรมในฟิลิปปินส์”



เส้นทางสู่การจับกุม


ดูเตอร์เตถูกควบคุมตัวที่สนามบินนานาชาติมะนิลาหลังจากเดินทางกลับจากฮ่องกง ซึ่งก่อนหน้านี้ เขาได้กล่าวปราศรัยต่อแรงงานฟิลิปปินส์ในต่างแดนที่นั่นเมื่อวันอาทิตย์ โดยเรียกเจ้าหน้าที่สืบสวนของ ICC ว่า “ลูกโสเภณี” และกล่าวว่าเขายอมรับชะตากรรมของตนเองหากต้องถูกจับกุม


ฟิลิปปินส์ถอนตัวจาก ICC ในปี 2019 ตามคำสั่งของดูเตอร์เต แต่ศาลยังคงยืนยันว่ามีอำนาจไต่สวนคดีที่เกิดขึ้นก่อนการถอนตัว รวมถึงการสังหารในเมืองดาเวา ซึ่งเกิดขึ้นขณะดูเตอร์เตดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรี ก่อนขึ้นเป็นประธานาธิบดี


การสืบสวนของ ICC เริ่มต้นอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน 2021 แต่ถูกระงับชั่วคราวหลังจากรัฐบาลฟิลิปปินส์อ้างว่ากำลังทบทวนคดีที่เกี่ยวข้องกับการสังหารภายใต้ปฏิบัติการยาเสพติด อย่างไรก็ตาม ในเดือนกรกฎาคม 2023 ศาล ICC ตัดสินให้การสืบสวนดำเนินต่อไป หลังจากปฏิเสธข้อโต้แย้งของฟิลิปปินส์ที่ว่า ICC ไม่มีอำนาจในการพิจารณาคดี


รัฐบาลมาร์กอสเคยประกาศหลายครั้งว่าจะไม่ให้ความร่วมมือกับ ICC แต่แคลร์ คาสโตร รองเลขาธิการสำนักงานสื่อสารของประธานาธิบดีกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า หากอินเตอร์โพลร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลฟิลิปปินส์ “เรามีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม”


อิทธิพลของดูเตอร์เตในเวทีการเมือง


แม้จะมีคดีความ แต่ดูเตอร์เตยังคงได้รับความนิยมในหมู่ประชาชนที่สนับสนุนแนวทางแก้ปัญหาอาชญากรรมแบบเด็ดขาดของเขา และยังเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลทางการเมือง โดยเขากำลังลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีเมืองดาเวาอีกครั้งในการเลือกตั้งกลางเทอมเดือนพฤษภาคมนี้


มีคดีที่เกี่ยวข้องกับการสังหารในปฏิบัติการยาเสพติดที่ถูกดำเนินคดีในศาลฟิลิปปินส์เพียงไม่กี่กรณี โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเพียง 9 นายที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานสังหารผู้ต้องสงสัยคดียาเสพติด


ดูเตอร์เตเคยกล่าวต่อสาธารณะว่าเขาเองเป็นผู้สังหารคน และเคยออกคำสั่งให้ตำรวจยิงผู้ต้องสงสัยคดียาเสพติดได้หากจำเป็น พร้อมยืนยันว่าสงครามยาเสพติดของเขาช่วยรักษาครอบครัวและป้องกันไม่ให้ฟิลิปปินส์กลายเป็น “รัฐยาเสพติด”


ในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ระหว่างการไต่สวนของวุฒิสภาฟิลิปปินส์เกี่ยวกับสงครามยาเสพติด ดูเตอร์เตกล่าวว่าเขา “ไม่ขอโทษและไม่มีข้อแก้ตัว” ต่อสิ่งที่ทำลงไป


“ผมทำในสิ่งที่ผมต้องทำ และไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม ผมทำเพื่อประเทศของผม” เขากล่าว



(Photo by JAM STA ROSA / AFP)

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง