เตรียมย้าย “18 บอส” เข้าแดนพิจารณาคดี - บอสชายถูกจับแยกแดน

(22 ต.ค. 67) ที่ ทัณฑสถานหญิงกลาง นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผอ.กองทัณฑวิทยา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า กระบวนการหลังจากกักโรคครบ 5 วัน จะต้องทำอย่างไร และ มีใครอาการน่าระวังหรือน่าเป็นห่วงบ้าง 

นางกนกวรรณ กล่าวว่า หลังจากนี้ จะมีการนำตัวผู้ต้องขังทั้งหมดย้ายไปอยู่ที่แดนระหว่างพิจารณาคดี สุขภาพของผู้ต้องขังหญิงในคดีนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง มีเพียงบางคนที่ต้องพบแพทย์ด้วยอาการเล็กน้อย เช่น ตาแห้ง มีไข้เล็กน้อย ส่วนของบอสมิน ไม่มีการร้องขออะไรเป็นพิเศษ เรื่องความเครียดสามารถปรับตัวได้ดีขึ้น แต่ไม่ถึงกับปกติทั้งหมด เพราะการเข้ามาอยู่ตรงนี้ต้องใช้เวลาปรับตัว 

โดยระหว่างนี้ทนายความสามารถเข้ามาเยี่ยมได้ทุกวันและไม่จำกัดเวลา ส่วนทางญาติจะสามารถเข้าเยี่ยมได้วันละ 1 ครั้ง ครั้งละ 15-20 นาที หรือจองเยี่ยมญาติออนไลน์ผ่านทางวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ได้เดือนละ 1 ครั้ง โดยวันนี้ก็มีญาติทั้งหมด 3 ที่คนติดต่อเข้ามาเยี่ยมผู้ต้องขัง ซึ่งตนเองขอไม่แจ้งว่าเป็นใครเพราะจะกระทบกับสิทธิ์ของผู้ต้องขัง โดยคนที่ติดต่อเข้ามาเยี่ยมเป็นพ่อแม่หรือคนใกล้ชิด

สำหรับการดูแลผู้ต้องหาระหว่างพิจารณาคดีนั้น จะมีความแตกต่างกับการดูแลผู้ต้องขังเด็ดขาด ทั้งเรื่องกายภาพ จะมีการแยกกันอยู่ ไม่ปะปนกัน และผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีผู้หญิงสามารถไว้ผมยาวได้ เพียงแต่ให้มัดรวบเรียบร้อย หรือหากร้อนและอยากตัดผมก็สามารถตัดได้เช่นกัน นอกจากนี้ มีสิทธิ์ในการพบทนายความเพื่อเตรียมต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ ซึ่งตลอด 5 วันที่ผ่านมา ยังไม่มีหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องติดต่อเข้ามาสอบปากคำผู้ต้องหาในคดีนี้ 

เมื่อสอบถามว่า บอสหญิงทั้งหมด 7 คน มีโอกาสพบแม่ตั๊ก น.ส.กรกนก สุวรรณบุตร ผู้ต้องขังจากคดีดังหรือไม่นั้น นางกนกวรรณ กล่าวว่า “มีโอกาสได้เจอ เนื่องจากทั้งหมด จะต้องไปอยู่ในแดนพิจารณาคดี” 

ส่วนผู้ต้องขังชาย เท่าที่มีการประสานกับทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ทราบว่าคนที่มีการป่วย เช่น บอสวิน ที่เป็นมะเร็ง จะได้รับการตรวจรักษาจากแพทย์อย่างต่อเนื่อง ส่วนจะต้องย้ายไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์หรือไม่ ณ เวลานี้ เวลายัง ไม่ได้ตอบไม่ได้ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ 

ในส่วนของบอสชายทั้งหมดนั้น เนื่องจากมีบอสพอลที่เข้ามาทีหลัง ทำให้มีการพูดคุยกับบอสทั้งหมดยินดีจะกักโรคเพิ่มอีก 1 วัน ทำให้ตามกำหนดแล้วจะสามารถเข้าเยี่ยมได้ในวันพรุ่งนี้ แต่เนื่องพรุ่งนี้เป็นวันหยุดราชการ จึงจะยังเยี่ยมไม่ได้ จะเริ่มเข้าเยี่ยมวันแรกได้ในวันที่ 24 ตุลาคม โดยหลังจากที่กักโรคครบแล้วก็จะกระจายไปยังแดนต่างๆ ที่เป็นแดนสำหรับผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี ซึ่งบอสชาย ทั้งหมด 11 คน จะไม่ได้อยู่ด้วยกันทั้งหมด เพราะจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กัน จึงทำเป็นต้องแยกแดนกัน

ทางด้าน นายปราโมทย์ ทองศรี ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านทัณฑวิทยา รักษาราชการแทน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ปฏิเสธกระแสข่าวที่ว่า นายกันต์ กันตถาวร มีอาการน่าเป็นห่วงจนต้องขอพบแพทย์กลางดึก ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยนายกันต์ สุขภาพร่างกายไม่น่าเป็นห่วง อยู่ในระหว่างการปรับตัว และไม่มีการพบแพทย์กลางดึกอย่างที่เป็นกระแสข่าว 

ส่วนกระแสข่าวก่อนหน้านี้ ที่บอกว่านายกันต์ไม่สามารถกินอาหารในเรือนจำได้ โดยกินไข่พะโล้ได้เพียงคำเดียวและคายออกมานั้น ก็ไม่เป็นความจริงเช่นกัน