รวบแล้ว 3 โจรซอยจุ๊ตระเวนเชือดเอาเนื้อวัวคาคอก
รวบแล้ว 3 โจรซอยจุ๊ตระเวนเชือดเอาเนื้อวัวคาคอก

ตามจับระหว่างหลบหนี 3โจรซอยจุ๊ตระเวนขโมยวัวในคอกเลี้ยงสัตว์ของเกษตรกรแล้วเอามาเชือดชำแหละไม่ห่างจากคอก เอาไปเฉพาะเนื้อ สารภาพทำจริงเอาเนื้อไปขายให้เขียงเนื้อ ผู้การฉุนไปทำแผนเอง ชาวบ้านโล่งอกฝากขอบคุณตำรวจ
(27 พ.ค.68) หลังจากกรณีเมื่อวันที่ 21 พ.ค.เกิดเหตุคนร้ายเข้าไปขโมยลูกวัวของชาวบ้านที่ อ.ลำปลายมาศ แล้วลากมาฆ่าแล้วชำแหละเอาเนื้อไปเหลือเพียงซากกับส่วนหัว สร้างความมึนงงให้กับเจ้าของวัวและชาวบ้านเป็นอย่างมาก
และเมื่อวันที่ 24 พ.ค.68 ได้เกิดเหตุแบบเดียวกันคราวนี้เกิดขึ้นที่ ต.ลุมปุ๊ก อ.เมือง ซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อกันกับ อ.ลำปลายมาศ คราวนี้คนร้ายไม่ทราบจำนวนเช่นเดียวกัน เข้าไปขโมยวัวในคอกสัตว์เลี้ยงของชาวบ้าน เป็นวัวกำลังตั้งท้องได้ 2 เดือนอายุ 3 ปี เอาไปฆ่าและชำแหละห่างจากคอกเลี้ยงสัตว์เพียง 15 เมตรเท่านั้น แต่ครั้งนี้คนร้ายชำแหละได้แค่ขาหน้า 2 ขา แต่ไม่เอาเนื้อไปคาดว่าน่าจะมีคนผ่านไปมาจึงหนีไปก่อน
ต่อมา พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้สั่งการเร่งด่วนให้เร่งตัวหาคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้เพราะถือว่าเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกร
และล่าสุดเมื่อวันที่ 26 พ.ค.ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ นำโดย พ.ต.อ.ยุทธพงษ์ รอดนวล ผกก.สืบสวนภูธรจังหวัด ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวน สภ.หนองสองห้องและตำรวจชุดสืบสวน สภ.ลำปลายมาศ สามารถจับพิกัดและตามรถต้องสงสัยเป็นรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า วิ่งอยู่บนถนนสาย 24 โชคชัย-เดชอุดม ในเขตเทศบาลเมืองนางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งได้บรรทุกรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า สีดำไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนซึ่งเป็นรถต้องสงสัยไปก่อเหตุขโมยวัวชาวบ้านตามที่ตำรวจแกะรอยตามมา
ตรวจสอบภายในรถพบผู้โดยสารมาด้วยกันรวม 5 คนแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าจะเดินทางไปทำงานต่างจังหวัด เมื่อตรวจสอบพบ 3 ใน 5 คนเป็นบุคคลต้องสงสัยจึงเรียกตัวมาสอบถามเบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุขโมยเชือดวัวชาวบ้านทั้ง 2 เคส
มีนายจันทร์ หรือต่อ อายุ 43 ปี อดีตลูกเขยผู้เสียหายรายแรกที่ อ.ลำปลายมาศ ,นายโกวิทย์ หรือโก๋ (คนชำแหละร่วมนายต่อเสื้อน้ำเงิน) อายุ 42 ปี และนายอำพรรณ หรือเบส (ลูกชายนายโกวิทย์) อายุ 20 ปี นำตัวมาสอบสวนที่ สภ.หนองสองห้อง
ต่อมา พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เดินทางมาร่วมทำแผนประกอบคำรับสารภาพด้วยตัวเอง โดยทั้งสามให้การรับสารภาพระหว่างการทำแผนว่า
นายโกวิทย์ เป็นหัวหน้าแก๊งเคยเปิดเขียงเนื้อวัวอยู่ที่กำแพงเพชร ย้ายมาอยู่กับหลานที่บุรีรัมย์ก่อนจะชักชวนให้หลานเปิดเขียงเนื้อขายข้างทาง หลังจากนั้นได้ชักชวนนาย จันทร์ ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของนายโกวิทย์ มาร่วมกันหาขโมยวัวแบบชำแหละเอาเนื้อ
ซึ่งนายจันทร์ ได้แนะนำให้ไปขโมยวัวของอดีตแม่ยายที่เพิ่งถูกแม่ยายไล่หนีออกจากบ้านมาเมื่อ 4 เดือนที่ผ่านมาก่อน จึงเข้าไปขโมยเอาลูกวัวชำแหละได้สำเร็จ เอาไปขายให้เขียงเนื้อของหลานได้เงินมาประมาณ 2,000 บาท
นายโกวิทย์ หัวหน้าแก๊งเล่าต่อหน้าผู้บังคับการอีกว่า หลังจากนั้นได้วางแผนไปขโมยอีก ตอนนี้แบ่งหน้าที่กันชัดเจน นายจันทร์เป็นคนชี้เป้า ตนเองเป็นคนเชือด ให้ลูกชายเป็นคนดูต้นทาง
ครั้งล่าสุดที่เข้าไปขโมยวัวของชาวบ้านที่ ต.ลุมปุ๊ก ระหว่างกำลังชำแหละเนื้ออยู่นั้น ลูกชายแจ้งว่ามีคนมาจึงยกเลิกรีบหนีออกมาก่อน เนื้อวัวที่ชำแหละได้ 2 ขาจึงปล่อยทิ้งไว้
ด้าน พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบหนึ่งใน 3 คนร้ายเคยได้รับใบอนุญาตให้ขายเนื้อสัตว์ โดยการหาเนื้อสัตว์จากโรงฆ่าสัตว์ หรือไปหาซื้อวัวเป็นมาชำแหละเอง แต่ผู้ต้องหาอ้างว่าไม่มีเงินไปหาซื้อวัวจึงใช้วิธีนี้ ส่วนหนึ่งก็อยากฝากเกษตรกรให้มีระมัดระวังมากกว่านี้เพื่อป้องกันเหตุไม่ให้คนร้ายเข้าไปหาสัตว์เลี้ยงเราได้ง่ายเกินไป
ขณะที่นายสมศักดิ์ อายุ 60 ปี เกษตรกรผู้เลี้ยงวัวกล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังมาดูการทำแผนว่า ก่อนหน้านี้หลังทราบข่าวยอมรับว่าผวาเพราะเลี้ยงวัวไว้หลายตัวไม่รู้ว่าตอนไหนจะมาถึง
ถึงตอนนี้สบายใจมาก ฝากบอกถึงผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ทำงานได้อย่างรวดเร็วทั้งที่คนร้ายกำลังจะหนีออกนอกพื้นที่
ทั้งนี้ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 3 ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ และ พรบ.ควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
