คาดพระราม 2 ขาล่องใต้ แน่นตั้งแต่วันนี้ยาวถึงพรุ่งนี้
คาดพระราม 2 ขาล่องใต้ แน่นตั้งแต่วันนี้ยาวถึงพรุ่งนี้
ถนนพระราม 2 ขาล่องใต้เริ่มแน่นตั้งแต่บ่ายวันนี้ คาดจะติดหนึบจนถึงพรุ่งนี้(28 ธ.ค.) พีคสุดช่วงเช้าวันเสาร์ - ผู้รับเหมาหยุดการก่อสร้างทางยกระดับถึงวันที่ 2 ม.ค.
(27 ธ.ค. 67) การคาดการณ์สภาพการจราจรบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 35 หรือ ถนนพระราม 2 ความยาวประมาณ 84 กิโลเมตรเศษ ตำรวจทางหลวงนครปฐม ร่วมกับ แขวงทางหลวงสมุทรสาคร กรมทางหลวงสมุทรสาคร อำนวยความสะดวกตลอด 24 ชั่วโมง พบว่า ปริมาณรถจะมากตั้งแต่บ่ายวันนี้ถึงบ่ายวันพรุ่งนี้ และเช้าวันอาทิตย์ จากนั้นสภาพการจราจรฝั่งขาออกรุงเทพฯ จะกลับเข้าภาวะปกติ ส่วนการก่อสร้างทางยกระดับ ขณะนี้ทางกรมทางหลวงได้ให้ผู้รับเหมาก่อสร้าง หยุดการก่อสร้างทางยกระดับ ตลอดเส้นทางถนนพระราม 2 ไปจนถึงวันที่ 2 มกราคม 2568
พ.ต.ต.กล้า สมบัติพิบูลย์ สารวัตรทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการทางหลวงนครปฐม ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า สภาพการจราจรบนถนนพระราม 2 เช้าวันนี้ปริมาณรถทั้งขาเข้า และ ขาออกกรุงเทพฯ ยังคงมีสภาพคล่อง เคลื่อนตัวได้ตามปกติ แต่จากการคาดการณ์ของกรมทางหลวงในช่วงบ่ายถึงค่ำของวันนี้ ( 27 ธ.ค.) จะมีปริมาณรถขาออกเป็นจำนวนมาก ราวๆ 60,000 คัน
จากนั้นในช่วงดึกปริมาณรถจะน้อยลง และตั้งแต่ในช่วงเช้าพรุ่งนี้จนถึงบ่าย ปริมาณรถขาออกจะกลับมาหนาแน่นอีกครั้งไม่ต่ำกว่า 61,000 คัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่เดินทางกลับบ้านในพื้นที่ภาคใต้ โดยจากการคำนวณปริมาณรถจะสูงสุดในช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้ จึงขอให้ประชาชนที่จะใช้ถนนพระราม 2 เพื่อเดินทางมุ่งลงสู่ภาคใต้ ปรับช่วงเวลาการเดินทางเป็นบ่ายวันนี้ หรือ หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลาเช้าถึงเที่ยงของวันพรุ่งนี้ ขณะที่ในช่วงค่ำรถจะโล่งมาก และกลับมามีปริมาณรถมากอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ซึ่งจะเป็นพวกที่เดินทางไปท่องเที่ยวในระยะใกล้ๆ เช่น หัวหิน ชะอำ เป็นต้น
สำหรับจุดที่อาจจะทำให้รถเกิดการชะลอตัวขับเคลื่อนได้ช้าลง ก็มีทั้งจุดก่อนขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน เนื่องจากรถต้องลดความเร็วลงทั้งขึ้นและลงช่วงข้ามสะพานแม่น้ำท่าจีนอีกทั้งก่อนช่วงขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีนประมาณ 500 เมตร ยังมีทางร่วมทางแยกอยู่ถึง 2 เส้นทางด้วยกัน
และ อีกช่วงหนึ่งคือ แยกบ้านแพ้วถึงสะพานข้ามคลองท่าแร้งเป็นระยะทางประมาณ 1 – 2 กิโลเมตร เพราะเป็นช่วงที่ไม่มีทางคู่ขนาน ทำให้รถทุกคันต้องเข้าสู่ช่องทางหลัก ซึ่งจากเดิมมีอยู่ 5 ช่องจราจร ก็จะลดลงเหลือ 3 ช่องจราจร ดังนั้นจึงอาจจะทำให้รถเกิดการชะลอตัวลงบ้าง แต่ถ้าเกิดการติดสะสมเป็นจำนวนมาก กรมทางหลวงและตำรวจทางหลวงก็ได้เตรียมที่จะเปิดเส้นทางพิเศษให้อีก 1 ช่องจราจร เพื่อเร่งระบายรถที่ลงสู่ภาคใต้ให้ได้มากยิ่งขึ้น