"พิธา" จ่อเปิดหนังสือบันทึกการเมืองของตัวเองชัยชนะที่ถูกขวาง

"พิธา" จ่อเปิดหนังสือบันทึกการเมืองของตัวเองชัยชนะที่ถูกขวาง

57128 พ.ค. 68 12:24   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

"พิธา" จ่อเปิดหนังสือบันทึกการเมืองของตัวเองชัยชนะที่ถูกขวาง ชี้ผมคือคนที่ประชาชนเลือก แต่ยังไปไม่ถึงเบอร์ 30 ติดอยู่กลางทาง ระหว่างความหวังของประชาชนกับกำแพงของรัฐพันลึก

(28 พ.ค.68) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า "The Almost Prime Minister" หนังสือเล่มนี้ ไม่มีชื่อภาษาไทยครับ มันเป็น political memoir - บันทึกการเมืองของผมที่ไม่เคยถูกเล่าที่ไหนมาก่อน


เรื่องเล่าของชัยชนะที่ถูกขวาง การเดินทางที่ไม่ถอย และเรื่องราวของประเทศหนึ่ง ที่ประชาชนกำลังพยายามเปลี่ยนแปลงอนาคตของตัวเอง


ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา ขณะเดินทางไปต่างประเทศ ไม่ว่าจะที่ฮาร์วาร์ด ยุโรป หรือเวทีโลกต่าง ๆ ผมมักถูกถามด้วยความงุนงงว่า“เกิดอะไรขึ้นกับการเมืองไทยกันแน่?” “คุณชนะเลือกตั้ง แล้วทำไมถึงมาอยู่ที่บอสตัน?”


และเมื่อผมเล่าเรื่องเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อนต่างชาติและนักศึกษาหลายคนจึงตั้งชื่อเล่นให้ผมว่า “The Almost Prime Minister” หรือบางคนเรียกผมว่า “29.5”


เพราะผมคือคนที่ประชาชนเลือก แต่ยังไปไม่ถึงเบอร์ 30 ติดอยู่กลางทาง — ระหว่างความหวังของประชาชน

กับกำแพงของรัฐพันลึก ที่ยังบล็อกฉันทามติของผู้คนไว้อย่างแน่นหนา


หนังสือเล่มนี้บอกเล่าเรื่องราวจาก "ยุบสภา ถึง ยุบพรรค"วันที่ประชาชนตัดสินใจเปิดทางให้ความเปลี่ยนแปลง

ต่อเนื่องถึงชัยชนะในการเลือกตั้ง และการเผชิญหน้ากับ “นิติสงคราม” และ "กลไกต่อต้านเสียงข้างมาก" ต่างๆนานาๆ สกัดกั้นเจตจำนงของผู้คน ก่อนจะนำไปสู่จุดจบของพรรคที่ประชาชนไว้วางใจ


นี่คือเส้นทางที่เต็มไปด้วยบททดสอบของศรัทธา บทพิสูจน์ของการยึดมั่นในหลักการ และบทเรียนสำคัญของประชาธิปไตยไทยในยุคเปลี่ยนผ่าน


แม้หนังสือเล่มนี้จะเล่าผ่านมุมมองส่วนตัว แต่ผมขอยืนยันว่า มันห่างไกลจากการเป็นเรื่องของผมคนเดียว เพราะนี่คือเรื่องราวของ “พวกเรา” ทุกคน ของประชาชนกว่า 14 ล้านเสียงที่ร่วมกันจุดประกายความหวังครั้งประวัติศาสตร์ หวังที่จะเห็นประเทศไทยเดินหน้าไปในทิศทางที่ดีกว่า เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ เป็นประเทศที่ทุกคนมีอนาคต มีศักดิ์ศรี และมีโอกาสอย่างเท่าเทียมกัน


ผมเข้าใจดีว่า การเดินทางครั้งนี้อาจทำให้หลายคนรู้สึกเหนื่อยล้า ผิดหวัง และเต็มไปด้วยคำถาม แต่สิ่งหนึ่งที่เราไม่เคยสูญเสียไปเลย คือคำว่า “ความหวัง”


แม้การเมืองไทยจะยังซับซ้อน และหลายครั้งดูเหมือนไม่มีทางออก แต่ทุกรอยยิ้ม ทุกกำลังใจ และทุกความเชื่อมั่นที่ประชาชนมอบให้ คือเชื้อเพลิงที่ทำให้ผม — และพวกเราทุกคน — ยังคง “ก้าวต่อไป” อย่างไม่ย่อท้อ


หนังสือเล่มนี้จึงไม่ใช่แค่บันทึกความทรงจำทางการเมือง แต่มันคือหลักฐานของความพยายามที่เราร่วมกันสร้าง

คือภาพจำของช่วงเวลาที่ประวัติศาสตร์เกือบเปลี่ยนทิศ และคือเครื่องเตือนใจว่า — ไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ถ้าเรายังร่วมมือกัน คำว่า “Almost” จะถูกขีดฆ่าทิ้งไป และเราจะไปถึงเส้นชัย...ไปเปลี่ยนประเทศนี้ด้วยกัน พบกัน 29.5 นี้ครับ


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat