แม่ร้องกองปราบฯ อ้างลูกชายโดนลักพาตัวไปทำงานแก๊งคอลฯ โดนเรียกค่าไถ่ 2 ล้านบาท

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 5 ก.พ.68 ที่บริเวณด้านหน้าแดนเนรมิตเก่า นายธมะนันท์ แตงทิม หรือ "จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่" อดีต สห.ทอ.พานางขจร (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี และนายบุญหลง (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี พี่ชายต่างบิดาและมารดา ของนายเจตน์สฤษฏ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี ที่ถูกนางนกต่อสาว ทักแชตคุย IG (ทำทีอยากเป็นแฟน) ชวนออกไปข้างนอก สุดท้ายไปโผล่ที่ประเทศกัมพูชา 

นางขจร เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 ม.ค.68 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 16.30 น. ลูกชายเดินมาบอกตน ว่าจะออกไปทำธุระ แต่ไม่ได้บอกว่าออกไปไหน จากนั้นตนก็เห็นรถแท็กซี่สีเขียวเหลือง มาจอดหน้าบ้าน ลูกชายก็ขึ้นรถไปทันที จากนั้น ก็ไม่สามารถติดต่อลูกชายได้อีกจนกระทั่งวันที่ 27 ม.ค.68 ลูกชายคนโต มาถามหาน้องชายคนที่หายไป ก่อนแจ้งตนบอกว่าลูกชายไปทำงานที่ปอยเปตแล้ว ตนได้ยินก็ตกใจมาก ลูกออกจากบ้านไปเพียงเสื้อผ้าชุดเดียว และไม่ได้มีบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตติดตัวไปด้วย

จากนั้น ลูกชายคนที่ถูกหลอกไปทำงาน ได้ส่งข้อความมาหาพี่บอกว่า วันดังกล่าวเมื่อขึ้นรถแท็กซี่ไปก็ถูกผู้หญิงที่คุยและรู้จักกันใน IG ใช้ถุงดำคลุมหัว ก่อนให้ดื่มน้ำจากนั้นก็ไม่มีสติ มารู้สึกตัวอีกก็ไปโผล่ที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา ถูกสั่งให้เป็นคอลเซ็นเตอร์ ให้โทรหลอกคนไทย โดยมีข้อมูลให้พูดตามสคริปต์ หรือ ถ้าอยากจะกลับเมืองไทย ก็ต้องนำเงินจำนวน 60,000 ดอลล่าร์ หรือ 2 ล้านบาทมาไถ่ตัว ถ้าไม่มีก็ต้องทำงานใช้หนี้ไปจนครบ 9 เดือน และลูกชายยังบอกอีกว่า มีคนไทยอยู่ที่ปอยเปตเหมือนกันอีกประมาณ 50 คน ส่วนใครคิดจะหนีก็จะถูกทำร้ายร่างกาย (ซ้อม)

นางขจร กล่าวว่า ตนไม่มีเงิน 2 ล้านบาทไปไถ่ตัวลูก จึงไปแจ้งความที่ สน.จรเข้น้อย ซึ่งเชื่อว่าหญิงที่คุยกับลูก เป็นนางนกต่อรับหน้าที่หลอกลูกชายอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งไปขายให้ขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดย ตำรวจ สน. จรเข้น้อย รับแจ้งไว้เมื่อ 26 ม.ค.67 ที่ผ่านมา เป็นคดีคนหาย แนะนำให้พยายามติดต่อผู้หญิงคนที่เชื่อว่าเป็นนางนกต่อ คาดว่า น่าจะยังอยู่ในไทย พร้อมกับพยายามไล่หากล้องวงจรปิดตั้งแต่ขึ้นแท๊กซี่ที่หน้าบ้าน ถนนขุมทอง-ลำต้อยติ่ง เขตลาดกระบัง กทม.ไปตลอดเส้นทาง

ด้าน "จ่าคิงส์" กล่าวว่า อยากฝากเรื่องนี้ถึง นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ , รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ช่วยติดตามเรื่องนี้ รวมถึงแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่หลอกลวงคนไทย เข้าไปทำงานฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน โดยวันนี้เป็นวันแรกที่ทางรัฐบาล มีการตัดไฟฟ้า และสัญญาณอินเตอร์เน็ต รวมทั้งงดส่งน้ำมันชั่วคราว 5 จุด ชายแดนไทย-เมียนมา จึงอยากให้ดำเนินการลักษณะนี้กับทางกัมพูชาด้วย เพราะก็เป็นฐานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่เช่นเดียวกัน ก่อนจะพาแม่และพี่ชายที่อ้างว่านายเจตน์สฤษฏ์ ถูกลักพาตัวไปบังคับทำงานให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่กัมพูชา เข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ป.เพื่อสอบสวนดำเนินการช่วยเหลือตามกฎหมายต่อไป

ต่อมา เวลา 12.30 น. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กทม. ภายหลังแม่และพี่ชายของนายเจตน์สฤษฏ์ เข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ป.แล้ว นางขจร กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามรายละเอียดทั้งหมด ก่อนจะโทรไปประสานแจ้งให้สถานทูตไทยในกัมพูชา ทราบว่า มีคนไทยถูกบังคับให้ไปทำงานที่นั้น พร้อมกับแจ้งตนว่า ถ้าหากลูกชายติดต่อกลับมา ขอพิกัดสถานที่ที่ถูกบังคับให้ทำงานด้วย จะได้แจ้งให้ทางสถานทูตไทย ประสานทางการกัมพูชาเข้าไปช่วยเหลือ พาตัวกลับไทยต่อไป - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน