บ่าว-สาวนับ 10 คู่ ร้องถูกช่างแต่งหน้าดีกรีรองแชมป์เบี้ยว

(21 มิ.ย. 68) ที่สำนักงานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ถนนแจ้งวัฒนะ ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ดจังหวัดนนทบุรี กลุ่มคู่บ่าวสาวนับ 10 คู่ เดินทางนำเอกสารหลักฐานต่างๆ เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิ นายชาญชัย ฉายบุ ที่ปรึกษามูลนิธิ เพื่อร้องเรียนขอความเป็นธรรม

หลังถูกนายพงศ์ภัต อายุ 27 ปี  ช่างแต่งผมแต่งหน้าชื่อดัง เจ้าของรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จากเวทีแห่งหนึ่ง หลอกลวงรับเงินมัดจำแล้วไม่ยอมมาแต่งหน้าเจ้าสาวในวันงาน จนงานวิวาห์แทบอลเวงต้องหาช่างแต่งหน้าอย่างกะทัน หันเพื่อมาแก้ปัญหา

น.ส.ช่อปรางค์ อายุ 30 ปี  เล่าว่า ตนได้ว่าจ้างช่างคนดังกล่าวมาแต่งหน้าให้ในงานวันแต่งงานของตน โดยตกลงราคาอยู่ที่ 19,900 บาท มัดจำ 9,900 บาท แต่พอถึงวันแต่ง กับถูกช่างเทงาน ไม่ยอมมาแต่งหน้าให้ จนต้องติดต่อช่างอื่นมาทำการแต่งหน้าให้ เพราะไม่สามารถติดต่อคู่กรณีได้ หลังเสร็จจากงาน ตนจึงเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชลบุรี เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 68 ในข้อหาฉ้อโกง

นายประกาศิต อายุ 33 ปี  เล่าว่า ตนทำสัญญาว่าจ้างช่างคู่กรณีเพื่อมาแต่งหน้าให้กับเจ้าสาวของตน โดยมัดจำเงินไปแล้ว 7,900 บาทแต่พอถึงวันงานกลับถูกเท ทำให้รู้สึกผิดหวังและโมโหเพราะต้องหาช่างสำรองมาแต่งหน้าให้กับเจ้าสาวของตน หลัง เสร็จงานแล้วตนจึงเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

น.ส.เมทิกา อายุ 39 ปี ผู้เสียหายคนที่ 3 เล่าว่า ตนก็ได้มัดจำเงินให้กับช่างไป 7,900 บาทจากราคาเต็ม 16,900 บาท แต่พอถึงวันงานกลับไม่ยอมมาแต่งหน้าให้กับตน จนวุ่นวายโกลาหลไปหมดในวันงาน โชคดีที่เพื่อนของตนรู้จักช่างแต่งหน้าเลยเรียกมา แก้ปัญหาให้ในวันงาน

ขณะที่ น.ส.ณิศรา ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า ตนว่าจ้างช่างคนดังกล่าวมาแต่งหน้าในงานแต่งงานของตนในราคา 30,900 บาทมัดจำไปแล้ว 19,900 บาท แต่พอถึงงานวันแต่งกลับถูกเทงานทำให้วุ่นวายไปหมด ตนรู้สึกโมโห หากเขาจะมาเคลียร์ หรือใช้เงินมัดจำคืนตนไม่ขอรับและขอดำเนินคดีจนถึงที่สุด

ทางด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่า  คดีนี้มีผู้เสียหายเป็นผู้บ่าวสาวนับร้อยคู่มูลค่าความเสียหายเป็นจำนวนมาก เนื่องจากช่างรายนี้ มีถ้วยรางวัลช่างแต่งหน้าแต่งผมเจ้าสาวเป็นเครื่องการันตี ทำให้ผู้เสียหายจำนวนมากหลงเชื่อ ทักไปแล้วก็โอนเงินมัดจำ

บางรายนัดผู้เสียหายแต่งหน้าวันเดียวกันเวลาเดียวกันถึง 3 ราย มีทั้งกทม, ชลบุรี, กาญจนบุรี แต่เทงานไม่ไปแต่งหน้าให้ผู้เสียหายเลยสักงานเดียว เรื่องนี้ถือเป็นฉ้อโกงประชาชน และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ

ตนจะนำผู้เสียหายจำนวนมากทั้งหมดไปร้องเรียนที่ตำรวจไซเบอร์ เพื่อให้ดำเนินคดีกับช่างรายนี้ หากว่าเห็นข่าวแล้ว อยากให้ติดต่อเจรจาเคลียร์ค่าเสียหายที่เอาเงินผู้เสียหายไปทั้งหมดก่อนที่จะมีผู้เสียหายออกมามากกว่านี้ ล่าสุดทางตัวช่างเอง ได้ติดต่อมาที่ทนายรณณรงค์ และบอกว่าตอนนี้ตนไม่มีเงิน พร้อมจะเจรจาค่าเสียหายโดยมีกำลังใช้ให้ได้แค่เดือนละ 30,000 บาท แต่ทางผู้เสียหายที่มาไม่ยินยอม ประสงค์จะขอดำเนินคดีจนถึงที่สุด